ช่อม่วง รสรินทร์ อาหารว่างไทยโบราณที่หาทานได้ยาก

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF




Rosalynth รสรินทร์ ช่อม่วง สูตรอาหาร khaoklong

ช่อม่วง อาหารว่างชาววัง สูตรโบราณ
ช่อม่วง สูตรลับชาววังโบราณ
“เป็นอาหารชาววังโบราณที่หาทานค่อนข้างยากในปัจจุบัน
สวยงามโดดเด่น ดูปราณีตบรรจง น่ารับประทานยิ่งนัก”

“ช่อม่วง” จัดเป็นอาหารว่างชาววังโบราณ ในเรื่องของประวัตินั้น ได้ถูกกล่าวว่าเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2  เป็นขนมของว่างที่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม อีกทั้งยังมีรูปลักษณะที่สวยงาม ด้วยการจับจีบเป็นรูปทรงดอกไม้ที่ประณีตอ่อนช้อย มีสีสันเป็นสีม่วงอ่อนที่สวยงาม ให้บรรยายออกมาได้ไม่หมด ดั่งที่ได้ถูกกล่าวพรรณาไว้ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ซึ่งนอกจากความสวยงามปราณีตแบบชาววังโบราณแล้ว ยังมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมครบรส น่าลิ้มลองอย่างยิ่งอีกด้วย

                        ๏ ช่อม่วงเหมาะมีรส                   หอมปรากฏกลโกสุม
                        คิดสีสไลคลุม                                หุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน
ถอดความ : ช่อม่วงมีรสดี มีกลิ่นหอมอย่างดอกไม้ มีสีสวยงามดั่งสไบคลุม มีสีม่วงพุดตาลห่อหุ้มไว้



Highlight – ช่อม่วง
  • วิธีทำและลับดับขั้นตอนในการทำช่อม่วง สูตรโบราณ รวมถึงการห่อแป้ง
  • เคล็ดลับรสรินทร์ในการทำช่อม่วง
สูตรแป้งช่อม่วง รสรินทร์
แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วย
แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ 1 ถ้วย
น้ำลอยดอกไม้ 1.75 ถ้วย
น้ำอัญชัน 0.25 ถ้วย



วิธีทำแป้งช่อม่วง
  1. ร่อนแป้งข้าวเจ้า แป้งท้าว และแป้งมันเข้าด้วยกัน ใส่น้ำลอยดอกนวดแป้งให้เข้ากัน
  2. ทำน้ำดอกอัญชันด้วยการ นำดอกอัญชันมาปลิดเอาแต่กลีบดอก แช่น้ำร้อนขยำกากทิ้ง บีบน้ำมะนาวให้เป็นสีม่วง
  3. ใส่น้ำดอกอัญชันที่ได้ลงไปนวดกับแป้งที่ทำในขั้นต้น นวดให้เข้ากัน
  4. ยกกระทะทองเหลืองตั้งไฟกลาง เอาน้ำละลายแป้งขึ้นตั้งไฟ กวนจนแห้ง กลิ้งได้ไม่ติดกระทะ
  5. พอคลายร้อนปั้นได้ แตะแป้งมัน ละนวลแป้งนวดจนนิ่ม และแบ่งเป็นก้อนเล็ก คลุมด้วยผ้าขาวบางอย่าให้โดนอากาศ
สูตรไส้ช่อม่วง แสนอร่อย
ฟักเชื่อม 500 กรัม 0.5
ถั่วลิสงคั่วบด 500 กรัม 0.5
น้ำตาลทราย 500 กรัม 0.5
งาขาวคั่วบุบ 500 กรัม 0.5
เกลือ ช้อนชา 0.5
มันหมูแข็งต้มสับ 250 กรัม 0.5



วิธีทำไส้ช่อม่วง
  1. ตั้งกระทะไฟอ่อน นำส่วนผสมทั้งหมดลงไปผัด พอจับตัวเป็นก้อนและเข้ากันดี ยกลงพัก
  2. นำแป้งที่ปั้นแยกไว้มาแผ่ให้ยาว ทำเป็นรูปเบ้า ตักใส้ไม่ต้องมากใส่ หุ้มให้มิด ปั้นรูปทรงให้เป็นก้อนกลม
  3. นำแหนบจุ่มแป้งมัน หนีบให้เป็นกลีบ โดยเริ่มจากตรงกลางก่อน จากนั้นวนเป็นกลีบดอกไม้ โดยหนีบสับหว่างกลีบ
  4. นำลงรังถึงที่รองด้วยใบตอง ทาน้ำมันรองที่ใบตองเรียงขนมช่อม่วงลงไป นึ่งให้สุก
  5. เตรียมจัดเสิร์ฟ แต่งด้วยกระเทียมเจียว เคียง ผักกาดหอม ผักชี และพริกสด ตามชอบ
  6. ทานให้อร่อยนะคะ
เคล็ดลับรสรินทร์ ช่อม่วง
  • น้ำลอยดอกไม้ ส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นน้ำลอยดอกมะลิ เพราะจะทำให้มีกลิ่นหอมเย็นชื่นใจ ตามสไตล์ขนมไทยโบราณ
  • หากไม่ต้องการให้ช่อม่วงออกมามีสีเข้มเกินไป ให้ค่อยๆ ใส่น้ำอัญชันลงในแป้งทีละนิด จนกว่าจะได้สีที่พอใจจึงหยุดใส่
  • ตัวแป้งที่ทำพักไว้ ควรคลุมด้วยผ้าขาวบางอย่าให้โดนอากาศ เพราะจะทำให้แป้งแห้งได้ เวลานำมาห่อจะแตกตัว
  • การนำแป้งมาปั้นรวมกับไส้นั้น ให้หยิบออกมาทีละหนึ่งก้อน และเมื่อทำจับจีบ หนีบให้เป็นกลีบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้นำใส่กลับเข้าไปในผ้าขาวบาง เพื่อไม่ให้ตัวแป้งแห้งแข็ง




ในการผสมแป้ง จำเป็นต้องทำให้มีเนื้อแป้งที่นุ่มนวม มีการผสมสีที่สวยงาม สีม่วงที่ได้มาจากการสกัดน้ำดอกอัญชัน หากต้องการให้มีสีม่วงอ่อน จำเป็นต้องค่อยๆ ผสมสีที่ละนิดเพื่อให้ได้สีตามต้องการ หากใส่น้ำดอกอัญชันลงไปผสมกับแป้งในคราเดียว อาจจะทำให้แป้งออกมามีสีเข้มจนเกินไป หากอยากให้ออกมามีสีม่วงอ่อน จึงต้องค่อยๆ ใส่ ค่อยๆ ผสม รวมถึงการจับจีบแป้งให้ออกมาเป็นกลีบดอกไม้ที่สวยงาม มีความปราณีตบรรจง สมชื่อเรียกของอาหารว่างชนิดนี้ว่า “ช่อม่วง” อาหารว่างของชาววังที่งดงาม นอกจากความสวยงามแล้ว ช่อม่วงยังมีสชาติที่อร่อย มีไส้ที่ครบรสด้วยส่วนประกอบของรากผักชี กระเทียม พริกไทย ซึ่งเป็นเครื่องปรุงหลักที่มีในอาหารไทยเกือบทุกประเภท นำมาผัดรวมกับเนื้อสัตว์ต่างๆ ให้มีรสชาติกลมกล่อมตามสูตรของรสรินทร์ ช่อม่วงนั้นสามารถทำได้ทั้งไส้เค็มและไส้หวาน เสิร์ฟรับประทานคู่กับผักกาดหอม ผักชี และพริกขี้หนู อร่อยนักแล

ในปัจจุบันนี้ ของว่างชาววังโบราณชนิดนี้หารับประทานได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากเป็นขนมที่ต้องทำสด ไม่สามารถเก็บได้นาน จึงไม่ค่อยมีขายทั่วไป อีกทั้งเป็นอาหารว่างชาววังที่ต้องใช้ความประณีตพิถีพิถัน ในการปั้นแป้งและจับจีบให้สวยงาม จึงต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำ หากต้องการหามารับประทาน มักจะต้องสั่งกับร้านที่รับทำขนมไทย หรือตามร้านที่รับจัดเลี้ยงในงานมงคลต่างๆ และยังมีอีกสถานที่แห่งหนึ่งที่ยังคงอนุรักษ์ขนมไทยโบราณไว้ นั่นคือที่เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งนอกจากช่อม่วงแล้ว ก็ยังมีขนมไทยชนิดอื่นๆ ให้ได้ลิ้มลองมากมายอีกด้วย ทางรสรินทร์อยากจะเชิญชวนเพื่อนๆ มาช่วยกันอนุรักษ์ขนมไทยโบราณ ช่วยกันทำอาหาร และช่วยกันแชร์สูตรอาหารเหล่านี้ออกไป เพื่อให้ได้มีคนสืบทอดและสืบสานการทำอาหารไทยโบราณเหล่านี้ไว้ เพื่อให้อยู่คู่กับคนไทยไปได้อีกนานเท่านาน

Rosalyn Banner


อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ
รับรองว่า คุณจะทำอาหารได้อร่อยจนคนทั้งบ้านชมไม่ขาดปากเลยค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ

Facebook: RosalynTH

ดูสูตรเด็ดอื่นๆ หน้าหลักรสรินทร์

[vc_row][vc_column][vc_single_image image=”1894″ img_size=”full” alignment=”center” onclick=”custom_link” link=”https://store.line.me/stickershop/product/5353487/en”][/vc_column][/vc_row]

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF