อาหารฝรั่งเศส 23 สุดยอดเมนูรสเลิศที่คุณพลาดไม่ได้
อาหารฝรั่งเศส ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นสิ่งที่พิเศษ จากผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารทั่วโลก เราจะจินตนาการอาหารฝรั่งเศสว่ามีความ โก้หรู เหมาะสำหรับคนเฉพาะกลุ่ม มากกว่าที่จะเป็นสำหรับคนทั่วไปนะคะ ซึ่งไม่ใช่เลย อาหารฝรั่งเศสเกิดจากการรวมเอาวัฒนธรรมเมนูภาคพื้นยุโรป ไม่ว่าจะเป็น สเปน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และเบลเยียม หลอมรวมเข้ากับรสนิยมการกินของคนฝรั่งเศสเองค่ะ
วันนี้รสรินทร์จะเปิดของดี ของน่ากินของประเทศฝรั่งเศสให้แบบหมดเปลือกเลยนะคะ แต่ละอย่างบางเมนูเราจะหาทานได้ตามร้านค้า หรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป และบางเมนูสามารถหาทานได้ตามภัตตาคารหรูๆ ตามโรงแรมค่ะ ไปรู้จักอาหารฝรั่งเศสกันเลย
อาหารฝรั่งเศส รวมเมนูรสเลิศที่พลาดไม่ได้
1. ครัวซอง Croissant
ครัวซอง Croissant ขนมอบรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ทุกคนรู้จักกันดี ขนมอบสีน้ำตาลทองกรอบอร่อยนี้ ทำมาจากเนยเนยแท้ แป้ง และยีสต์ที่มีรสหวานเล็กน้อย หากทำอย่างถูกต้อง เมื่อบดออกมา ภายในควรจะมีชั้นสีเหลือง ขาวควรจะยืดหยุ่นเพียงเล็กน้อยเมื่อดึงจากตรงกลาง พร้อมที่จะทาเนยหรือแยมสด
ต้นกำเนิดของครัวซองได้รับอิทธิพลมาจากออสเตรีย ในปี 1683 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของออสเตรียเหนือจักรวรรดิออตโตมัน โดยรูปร่างของขนมนี้น่าจะเลียนแบบพระจันทร์เสี้ยวที่พบในธงชาติตุรกีอย่างไรก็ตามครัวซองได้รับการพัฒนาในฝรั่งเศส และฮิตติดลมบนจนกระทั่งทุกวันนี้ เนื่องมาจาก ผู้คนเริ่มทำขนมพัฟซึ่งเป็นนวัตกรรมของเชฟทำขนมฝรั่งเศส วันนี้ครัวซองฝรั่งเศสมีหลากหลายรูปแบบเช่น ช็อกโกแลต แยม ลูกเกด หรือแม้แต่ครีมชีส และผู้คนส่วนใหญ่จะบริโภคครัวซองเป็เมนูนอาหารเช้า
2. มาการอง Macarons
มาการอง Macarons แซนวิชคุกกี้สอดไส้ ทำจากเมอแรงค์ชิ้นเล็กๆ กลมๆ น่ารัก สอดไส้ไส้ตรงกลาง เนื้อสัมผัสกรุบกรอบด้านนอกและเคี้ยวหนึบตรงกลาง มาการองถูกคิดค้นครั้งแรกในอิตาลีใน 1533 เป็นแบบไม่สอกไส้ มาการองมีชื่จากคำในภาษาอิตาลี maccherone หมายถึงแป้งที่ดี
เดิมทีขนมชนิดนี้ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองงานอภิเษกสมรสของดยุกแห่งออร์เลอ็อง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งฝรั่งเศส นักประวัติศาสตร์ด้านอาหารยกให้ Pierre Desfontaines เป็นผู้คิดค้นมาการอง เขาเป็นคนแรกที่เสอดไส้คุกกี้ด้วยครีมกานาซ เปลี่ยนคุกกี้อัลมอนด์นุ่มนวล ให้กลายเป็นขนมหวานชื่อดังที่เรารู้จักในปัจจุบัน
มาการองเป็นคุกกี้ประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปารีส แต่ก็เป็นที่นิยมทั่วโลกเช่นกัน และมาพร้อมกับไส้ที่แตกต่างกันในขนาด สี และรสชาติต่างๆ
3. มูส Mousse
มูส Mousse ของหวานจากฝรั่งเศสที่มีเนื้อบางเบา นุ่มฟู เป็นครีมที่ถูกคิดค้นในฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 18 คำว่า มูส mousse นั้นหมายถึงโฟมในภาษาฝรั่งเศส และเนื้อสัมผัสที่เป็นฟองนุ่มละมุน มูสที่เป็นของหวานมักทำด้วยไข่ขาว หรือวิปครีม และมีหลายรสชาติ เช่น ช็อกโกแลต วานิลลา หรือสตรอเบอร์รี่
เมนูมูสที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ มูสช็อคโกแลตหรือมูส mousse au chocolat แม้จะไม่รู้ว่าใครเป็นคิดค้นเมนูนี้ แต่เชื่อกันว่าการทำมูสช็อกโกแลตครั้งแรกมีขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 และครั้งหนึ่งมันเคยเป็นเมนูพิเศษเฉพาะสำหรับอาหารฝรั่งเศส มูสเริ่มปรากฏในร้านอาหารอเมริกันและอังกฤษในทศวรรษ 1960 ก่อนจะแพร่หลายไปทั่วโลกหาทานได้ตามร้านทั่วไป
4. กีชช หรือ คีช Quiche
กีชช หรือ คีช Quiche เป็นพายฝรั่งเศสยอดนิยมนี้ประกอบด้วยแป้ง และมีไส้ทำด้วยไข่ ครีม และจะใส่อะไรก็ได้ตั้งแต่เบคอน ชีส ต้นหอม ไปจนถึงเห็ดและอาหารทะเล คีชมักจะให้พลังงานและแคลอรีสูง ทำให้เป็นตัวเลือกประจำสำหรับงานเลี้ยง และงานบุปเฟ่ต์
คีชสามารถเสิร์ฟได้ทั้งร้อนและเย็น ในปัจจุบัยมีคีชหลากหลายประเภท แต่ที่ได้รับความนิยมจะเป็น คีชลอเรนต์ quiche Lorraine, คีชฟลิเรนทีน quiche Florentine และ คีชโปรวองซ์แซล quiche Provençale
5. บาแก็ต Baguette
บาแก็ต Baguette เป็นขนมปังที่รูปร่างยาว และ เนื้อขนมปังมีรูพรุน เปลือกแข็งกรุบกรอบ ภายในนุ่มชุ่มลิ้น เป็นภาพลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของฝรั่งเศส ซึ่งมีประวัติย้อนไปถึงศตวรรษที่ 19 เมื่อข้าวสาลี และขนมปังขาว ชาวบ้านธรรมดาก็สามารถหาทานได้ทั่วไป บาแกตต์่ถูกคิดค้นขึ้นและรับประทานกันแพร่หลายก่อนการตั้งชื่อเสียอีก
คำว่า บาแกตต์ ถูกใช้ครั้งแรกในปี 1920 ซึ่งมาจากภาษาละติน baculum หมายถึงไม้เท้า ซึ่งกลายเป็น บัคเชโต ในภาษาอิตาลี บาแกตต์ถูกอบครั้งแรกด้วยขนมปังขนาดกว้าง แต่กฎหมายปี 1920 ได้ห้ามไม่ให้คนงานเริ่มทำงานก่อนตี 4 ทำให้คนทำขนมปังอบขนมปังเสร็จทันเวลาสำหรับอาหารเช้าไม่ได้ ก็เลยคิดค้นขนมปังรูปทรงยาวผอม เพื่อเร่งกระบวนการอบให้ไวขึ้นนั่นเอง
6. พาร์เฟ่ต์ Parfait
พาร์เฟ่ต์ Parfait เป็นชื่อของขนมฝรั่งเศสที่แช่แข็ง ชื่อของขนมชนิดนี้มีความหมายว่าสมบูรณ์แบบดังนั้นใครๆ ก็สามารถจินตนาการได้ว่าผู้รังสรรขนมนี้ตั้งใจให้ประสบการณ์การกินของหวานสุดเพอร์เฟ็คขนาดไหน พาร์เฟต์เป็นของหวานที่ทำจากไข่แดง น้ำตาล และวิปครีม และสามารถปรับเปลี่ยนด้วยวัตถุดิบอื่นๆ ตามจินตนาการได้เช่น ผลไม้ ถั่ว หรือกาแฟ
ยิ่งในปัจจุบันนี้ พาร์เฟ่ต์สามารถปรุงด้วยส่วนผสมของอาหารคาวได้เช่นกัน และยังมีหลายแบบที่ปรุงจากอาหารทะเล ผัก หรือแม้กระทั่งแต่ฟัวกราส์ เดิมทีเสิร์ฟพาร์เฟ่ต์บนจานแบน แต่ในปัจจุบันนี้ พาร์เฟต์มักจะใส่แก้วฟลุตทรงสูง
7. เฟรนฟราย , Pommes frites,French Fries
เฟรนฟราย , Pommes frites,French Fries แม้ว่าไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศส แต่ชื่อเฟรนฟราย ก็ฮิตติดลมบนไปเสียแล้วทั้งตามร้านฟาสต์ฟู้ดทั่วโลก แต่ใครจะรู้ต้นกำเนิดเฟรนฟรายถูกคิดค้นขึ้นในประเทศเบลเยียม จานเรียบง่ายนี้ทำจากมันฝรั่งที่หั่นเป็นเส้นตามยาวแล้วทอดในน้ำมันร้อนๆ แม้ว่าจะมีการแย่งชิงกันระหว่างฝรั่งเศสและเบลเยียมเกี่ยวกับที่มาของเฟรนฟราย ความจริงก็คือว่าไม่มีประเทศใดในโลกที่เฉลิมฉลองและเพลิดเพลินกับอาหารจานนี้มากไปกว่าชาวเบลเยียมอีกแล้ว
ตามภัตตาคารจะเสิร์ฟเฟรนฟรายในกรวยกระดาษและมาพร้อมกับมายองเนสในปริมาณที่พอเหมาะ ทุกวันนี้มีเฟรนฟรายหลากหลายสไตล์ให้บริการในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดทั่วโลก บางร้านจะหั่นบางกว่าแบบปกติ และซอสที่ใช้ดิปเฟรนฟรายที่นิยมมากที่สุดคือซอสมะเขือเทศ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรุงรสที่หลากหลายและวิธีการเสิร์ฟ เฟรนช์ฟรายส์แสนอร่อยเหล่านี้ได้สร้างตำแหน่งเป็นอาหารว่างที่ชื่นชอบทั่วโลกมานานแล้ว และยังคงนิยมต่อไปไม่เสื่อมคลาย
8. เครมบรูเล่ Crème brûlée
เครมบรูเล่ Crème brûlée เป็นขนมหวานคัสตาร์ดไข่แบบดั้งเดิมนี้ ประกอบด้วยไข่แดง ครีม น้ำตาล และวานิลลา กับเปลือกคาราเมลที่แข็งและไหม้เกรียม เครมบรูเล่มักจะถูกจัดเสิร์ฟในจานกว้างและแบน จากนั้นโรยด้วยน้ำตาลซึ่งจะถูกเคลือบด้วยคาราเมล มาจากกการที่ถูกเบิร์นให้ไหม้ เป็นสีน้ำตาลทอง
ต้นกำเนิดของแคนมบรูเล่ ไม่ปรากฏแน่ชัดแต่มีหลายประเทศอ้างว่าคิดค้นขึ้นไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ สเปน และฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามนักประวัติศาสตร์ด้านอาหารส่วนใหญ่ยอมรับว่าเครมบรูเร่ ได้รับความนิยมตั้งแต่สมัยยุคกลาง และสูตรขนมชนิดนี้ก็แพร่หลายไปทั่วยุโรปเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว ปัจจุบันเครมบรูเล่ เป็นของหวานเมนูคลาสสิกเหนือกาลเวลา เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำอาหารแบบคลาสสิกที่เรียบง่าย น่าจดจำ ละเอียดอ่อน และมีรสชาติละมุน
9. บริยอช Brioche
บริยอช Brioche คือขนมอบสูตรขนมอบสูตรพิเศษ ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างขนมอบเพลทรี่ กับขนมปัง โดยมีปริมาณเนยสูง นม และไข่ในปริมาณมาก ทำให้ได้แป้งที่เข้มข้น นุ่ม บริยอชเป็นขนมอบเก่าแก่ ที่มาประวัติยาวนานมาหลายศตวรรษทั้งในฐานะเมนูอันโอชะ และเป็นสัญลักษณ์สถานะแสดงชนชั้นสูง
ต้นกำเนิดเมนูนี้เชื่อกันว่าคิดค้นโดย ชาวนอร์มัน ไวกิ้ง ซึ่งตั้งรกรากอยู่ในฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 9 และนำความลับในการทำเนย ลงในแป้งเพลททรี่ คำว่า บรียอช Brioche ปรากฏครั้งแรกในการตีพิมพ์ใน 1404 ส่วนคำว่า Brioche นั้นมาจากสองคำคือ bris และ hocher ซึ่งหมายถึง นวด และ คน ทุกวันนี้ นิยมรับประทานบริยอชกับชา แต่ก็ยังเป็นส่่วนประกอบของเมนูคาวหวาน โดยสามารถปรุงไส้ต่างๆ มาใส่และรับประทานเป็นอาหารหวานหรือคาวก็อร่อยเด็ดทั้งคู่เลยค่ะ
10. ราตาตูย Ratatouille
ราตาตูย Ratatouille เป็นอาหารพื้นเมืองของทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส โดยมีลักษณะเป็นสตูผัก มีต้นกำเนิดมาจากเมืองนิส อาหารชนิดนี้มีชื่อเต็มว่า ราตาตูยนิส
คำว่า ราตาตูย มาจากคำในภาษาอุตซิตาว่า ราตาตุลยอ ราตาตูยปัจจุบันพบเห็นได้ในภูมิภาคพรอว็องส์และเมืองนิส มักจะทำในหน้าร้อนโดยใช้ผักในฤดูร้อน ราตาตูลยาสูตรดั้งเดิมจากเมืองนิสนั้นจะใช้เพียงแค่ซุกกีนี มะเขือเทศ พริกหยวกแดงและเขียว หัวหอม และกระเทียม แต่ราตาตูยในปัจจุบันจะมีการใส่มะเขือลงไปในส่วนผสมด้วย
ปกติราตาตูยจะเสิร์ฟเป็นอาหารข้างเคียงกับอาหารหลัก หรือบางครั้งก็เสิร์ฟเป็นอาหารหลักบนโต๊ะก็ได้
11. ชาโตบริยองด์ Châteaubriand
ชาโตบริยองด์ Châteaubriand เป็นหนึ่งในสเต๊กที่นุ่มที่สุด เป็นเนื้อส่วนสันในซึ่งใหญ่ที่สุด แต่ถ้าเทียบสัดส่วนจากวัวทั้งตัวแล้วไม่เรียกว่าใหญ่ไม่ได้ เพราะ 1 ตัว จะมีเนื้อส่วนนี้ไม่กี่กรัมเท่านั้น
ในสมัยก่อนนั้นเนื้อสเต๊กจะตัดจากส่วนเซอร์ลอยน์ซึ่งมีรสชาติแต่จะนุ่มน้อยกว่า เชฟมงต์มิเรยล์คิดต่างด้วยการตัดเนื้อส่วนเทนเดอร์ลอยน์มาทำสเต๊กแล้วเสิร์ฟให้เจ้านาย ต่อจากนั้นมาสเต๊กที่ทำจากเนื้อส่วนนี้ก็เรียกต่อๆ กันมาตามชื่อของเจ้านายคือ ชาโตบริยองด์ แต่ยังมีอีกหนึ่งทฤษฎีที่เชื่อว่าชื่อนี้มาจากเมืองชาโตบริยองด์ในฝรั่งเศส ซึ่งผลิตวัวพันธุ์ดี
ตามตำรับดั้งเดิมแล้ว สเต๊กชาโตบริยองด์จะเสิร์ฟกับซอสชื่อเดียวกัน ซึ่งมีส่วนผสมหลักเหมือนซอสเบอร์ซี แต่ยุคปัจจุบันมักจะเสิร์ฟกับซอสเบอร์เนส ซึ่งเป็นซอสเข้มข้นใส่หอมแดง ทาร์รากอน และพริกไทย หรือจะเป็นมัสตาร์ดซอสก็ได้ ส่วนเครื่องเคียงก็มักจะเป็นมันฝรั่งหัวเล็กๆ ที่เรียกว่า นิว โพเทโทส์ หรือ แชต โพเทโทส์
12. พรอฟีทรอล Profiterole
พรอฟีทรอล Profiterole เป็นขนมฝรั่งเศสชนิดหนึ่ง ทำจากแป้งชูหรือแป้งพายนิ่ม บีบให้เป็นก้อนกลมแล้วนำไปอบ เติมไส้ที่มีรสหวาน เช่น วิปครีม คัสตาร์ด หรือไอศกรีม (โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา) เป็นต้น อาจตกแต่งตัวขนมด้วยกานัช (ซอสช็อกโกแลต) น้ำตาลเคี่ยว หรือโรยน้ำตาลไอซิงเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีการทำพรอฟีทรอลที่มีไส้ของคาวรสกลมกล่อมด้วย โดยใส่ไส้เนื้อสัตว์บด ไส้กรอก เนยแข็ง และอื่นๆ เป็นต้น
13. กราแตง Gratin
กราแตง Gratin เป็นคำศัพท์ฝรั่งเศสที่ใช้กันในวงการอาหารทั่วโลก หมายถึงเทคนิคการทำอาหารโดยการอบชีส ในศตวรรษที่ 16 หรือก่อนหน้านั้น คำว่า กราแตงหมายถึงเศษอาหารที่ไหม้เกรียมและกรอบซึ่งติดอยู่ที่ด้านล่างของหม้อหรือกระทะ
ทุกปัจจุบัน กราแตงมักหมายถึงอาหารที่มีท็อปปิ้งเป็นชีสอบ ส่วนผสมสำหรับกราแตงส่วนใหญ่มักประกอบด้วยครีม ชีสขูด และเกล็ดขนมปัง au gratin ยังสามารถทำได้โดยการทำให้หน้าเกรียมเป็นสีน้ำตาลอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่อบในเตาอบหรืออบเฉพาะไฟบน โดยใช้เครื่องที่เรียกว่า “Salamander”
14. ทาร์ทาร์สเต็ก Steak tartare
ทาร์ทาร์สเต็ก Steak tartare ทาร์ทาร์สเต็กเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ทำจากเนื้อดิบสับละเอียด หรือเนื้อม้าที่ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ซอสวูสเตอร์ และทาบาสโก หรือมัสตาร์ด เนื้อดิบจะผสมกับไข่แดงดิบ เคเปอร์ หัวหอม และผักชีฝรั่ง ก่อนนำมาสับ
เวลาเสิร์ฟ สเต็กทาร์ทาร์มักจะเสิร์ฟพร้อมกับขนมปังปิ้ง ขนมปังข้าวไรย์ หรือเฟรนช์ฟราย เชื่อกันว่า ทาร์ทาร์สเต็ก เดิมทีเป็นรูปแบบของสเต็กเนื้อ à l’Américaine ซึ่งเป็นสเต็กเนื้อดิบสับที่คิดค้นครั้งแรกในฝรั่งเศสในช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ 20 ทาร์ทาร์สเต็ก เดิมเสิร์ฟกับซอสทาร์ทาร์ และสิ่งใดก็ตามที่เสิร์ฟพร้อมกับมันเรียกว่า à la tartare
15. สตูเนื้อไวน์แดง Beef bourguignon
สตูเนื้อไวน์แดง หรือ บูร์กวิญองเนื้อ Beef bourguignon สตูว์เนื้อไวน์แดงเป็นอาหารสัญชาติฝรั่งเศสที่ถูกคิดค้นขึ้นมาในศตวรรษที่19 ด้วยการนำไวน์แดงจากแคว้นเบอร์กันดีมาตุ๋นกับเนื้อและผักต่างๆ เพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นหอม
ส่วนผสมทั้งหมดจะถูกเคี่ยวเป็นเวลานานจนเนื้อนุ่มและชุ่มฉ่ำ และไวน์แดงและผักจะถูกเคี่ยวจนเข้าเนื้อจนได้ซอสสีเข้ม ที่เข้มข้น บางคนบอกว่าจานนี้อร่อยยิ่งขึ้นหลังจากแช่เย็นเป็นเวลา 24 ชั่วโมงแล้วอุ่นซ้ำก่อนทาน
16. คอนซอมเม่ Consommé
คอนซอมเม่ หรือซุปใส Consommé คือซุปใสประเภทหนึ่ง มาจากน้ำต้มกระดูกสัตว์ (สต็อก) หรือน้ำต้มเนื้อสัตว์หรือผัก (บรอท) ที่มีรสชาติเข้มข้นซึ่งผ่านกระบวนการทำให้ใสโดยใช้ไข่ขาวดักจับไขมันและตะกอนแล้วตักออก
กงซอเมทำได้โดยการเติมส่วนผสมของเนื้อสัตว์บด พร้อมกับมีร์ปัว (ตัวเพิ่มความหอมหวานจากแคร์รอต ขึ้นฉ่ายฝรั่ง และหัวหอม) มะเขือเทศ และไข่ขาวลงไปในน้ำต้มกระดูกหรือน้ำต้มเนื้อหรือผัก กุญแจสำคัญในการทำกงซอเมที่มีคุณภาพสูงคือการเคี่ยวด้วยไฟอ่อนร่วมกับการหมั่นคนซึ่งจะนำเศษและตะกอนขึ้นสู่ผิวหน้าของซุป ความร้อนจะลดลง กงซอเมจะถูกเคี่ยวโดยใช้ความร้อนที่ต่ำลงอีกจนกว่าจะมีรสชาติตามต้องการ มักใช้เวลาระหว่าง 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง ซุปที่ได้จะเป็นของเหลวใสซึ่งอาจมีสีอำพัน (กรณีที่เป็นกงซอเมเนื้อวัวหรือเนื้อลูกวัว) หรือสีเหลืองซีด (กรณีที่เป็นกงซอเมเนื้อสัตว์ปีก) จากนั้นจะเทกงซอเมออกจากหม้ออย่างระมัดระวังแล้วนำไปกรองอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่ามีความใสบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
17. บุยยาเบส Bouillabaisse
บุยยาเบส Bouillabaisse คือ ซุปปลาสไตล์ฝรั่งเศส ซุปสูตรนี้เกิดจากการที่ชาวประมงขายปลา รวมถึงพวกกุ้งหอยต่างๆ ไม่หมด จึงนำมาปรุงเป็นอาหารง่ายๆ รับประทานกันเอง ดังนั้น ในการปรุงบุยยาเบส เราสามารถใช้ซีฟู้ดท้องถิ่นอะไรก็ได้ และส่วนมากจะไม่นิยมใช้ของที่มีราคาแพง ซุปบุยยาเบสนี้ แม้จะเรียกชื่อว่าเป็นซุป แต่สำหรับเหล่าชาวประมง เขาถือว่าซุปนี้คือมื้ออาหารหลักของเขา
เมื่อเวลาผ่านไป บุยยาเบส กลายเป็นหนึ่งในอาหารทะเลที่หรูหราที่สุดในโลก มักจะพบได้ในร้านอาหารหรูทุกแห่งในเมืองท่ามาร์กเซย Marseille ซึ่งมีราคาสูงถึง 200 ยูโรสำหรับมื้ออาหารสำหรับสองคนเลยทีเดียว
18. ซุปหัวหอม Soupe à l’oignon
ซุปหัวหอม Soupe à l’oignon เมนูนี้ปรุงจากหัวหอมใหญ่กับน้ำซุปเนื้อ เสิร์ฟกับขนมปังครูตอง ขนมปัง 2 เหลี่ยมเล็ก ชาวฝรั่งเศสมักใส่เข้ามาในอาหาร เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสกับเมนูต่างๆ ตามด้วยใช้เนยแข็งเหลวปิดหน้าซุป ความเข้มข้นนี้เกินห้ามใจ โดยซุปนี้มีประวัติความเป็นมาย้อนไปได้ถึงยุคโรมันเลยทีเดียว
แม้ว่าจะมีต้นกำเนิดมาจากอาหารของชาวนา แต่ในปัจจุบันนี้ซุปหัวหอมของฝรั่งเศสถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอาหารฝรั่งเศสที่มีราคาแพง ถึงแม้ว่าน้ำซุปทำได้ง่ายๆ โดยใช้หัวหอมคาราเมลไรซ์ และน้ำสต็อก อย่างไรก็ตามซุปมีความโดดเด่นด้วยคูตอง croûtes ซึ่งเป็นขนมปังอบกรอบที่วางไว้บนซุปแล้วปิดด้วยชีส
19. มัดแลน หรือมัดเดอแลน Madeleine
มัดแลน หรือมัดเดอแลน Madeleine คือ ขนมอบชิ้นเล็กๆ รูปทรงเปลือกหอย เป็นการรวมกันที่สมบูรณ์แบบของคุกกี้เนย กับเค้กเนื้อฟองน้ำ ที่เนื้อสัมผัสจะกรอบนอก นุ่มใน และละมุนลิ้น ชุ่มฉ่ำไปด้วยเนย มีต้นกำเนิดที่แคว้นกร็องแต็สต์ (Grand Est) เมืองกอแมร์ซี (Commercy) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส
ส่วนผสมของแมดเดอแลนั้น มีแป้งสาลี นมผง น้ำตาล ผงฟู และไข่ไก่ บางสูตรจะเติมถั่วบดลงไปเพิ่มความหอมด้วย รสช็อคโกแลต รสส้ม รสวนิลาคาราเมล ไส้ลูกเกด ไส้ช็อคโกแลตชิป ฯลฯ หน้าตาคล้ายกับขนมไข่ของเมืองไทย แต่จริงๆ นั้นต่างกัน เพราะขนมไข่เมืองไทยจะเน้นไข่ ส่วน มัดเดอแลน (Madeleine) จะเน้นเนย เหมาะทานคู่กับชาหรือกาแฟร้อนๆ ยามบ่าย
20. กงฟีเป็ด Confit de canard
กงฟีเป็ด Confit de canard กงฟี (Confit) คือ กรรมวิธีของทำอาหารอย่างหนึ่งของฝรั่งเศส ซึ่งใช้น้ำมันจากสัตว์มาเพื่อตุ๋นอาหาร โดยให้น้ำมันทำหน้าที่เป็นตัวนำพาความร้อน ค่อยๆแทรกซึมเข้าไปในเนื้อจนเกิดรสสัมผัสนุ่มฉ่ำละลายลิ้น ซึ่งขั้นตอนกงฟีเหมาะกับการตุ๋นเนื้อสัตว์ที่มีความเหนียวแห้งได้อย่างดี และกรรมวิธีนี้ได้ปรากฏอยู่ในเมนูอาหารฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า ขาเป็ดกงฟี หรือในภาษาอังกฤษว่า French duck leg confit
เมนูนี้จะทำได้โดยใช้เป็ดหรือห่าน ปรุงด้วยกรรมวิธีที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี เป็ดจะถูกนำมาหมักกับเกลือ เครื่องเทศต่างๆ กระเทียม และทายม์ 36 ชั่วโมง จากนั้นนำไปทอดกับไขมันเป็ดด้วยอุณหภูมิต่ำอย่างช้าๆ แม้จะรับประทานกันทั่วฝรั่งเศสแต่มีถิ่นกำเนิดมาจากแคว้นกาสโคนี
21. เทอร์รีน Terrine
เทอร์รีน Terrine อาหารฝรั่งเศสจานนี้ประกอบด้วยเนื้อสับหยาบและไขมันคล้ายกับมีทโลฟ ชื่อเทอร์รีน ยังหมายถึงภาชนะดินเผาที่ใช้ทำอาหารซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่พิมพ์ด้วย ส่วนผสมของเนื้อสัตว์ (มักจะเป็นตับห่านหรือเป็ด หมู กวาง หรือหมูป่า) มักจะหมักด้วยสมุนไพรต่างๆและไวน์ ก่อนที่จะปล่อยให้เย็น เหมือนเยลลี่ก่อนรับประทาน
ในสมัยก่อนเทอร์รีนถูกทำขึ้นโดยชาวนาฝรั่งเศส แต่ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่เมนูหรูหราซึ่งมักปรากฏในเมนูของร้านอาหารหรูหลายแห่งทั่วโลก
22. เอสคาโก้ Escargot
เอสคาโก้ Escargot หอยทากปรุงสุกเป็นอาหารอันโอชะของชาวฝรั่งเศสที่มักใช้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ก่อนทำเมนูนี้ ต้องล้างหอยทาก แกะเปลือกออก และปรุงให้สุก มักใช้เนยกระเทียม น้ำสต๊อกไก่ หรือไวน์ ในการปรุงอาหารจานนนี้ ด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน และกลิ่นสมุนไพรและเข้ากันได้ดีกับเนยกระเทียม โหระพา และผักชีฝรั่ง อย่างลงตัวเป็นที่สุด หอยทากที่ปรุงสุกสามารถเสิร์ฟบนขนมปังบาแกตต์ที่ปิ้งแล้ว แต่โดยทั่วไปแล้วจะใส่กลับเข้าไปในเปลือกหอย และเสิร์ฟ
23. ไก่ตุ๋นไวน์ Coq au vin
ไก่ตุ๋นไวน์ หรือ ก๊อก โอแวง Coq au vin สตูว์สุดคลาสสิกนี้มาจากแคว้นเบอร์กันดีของฝรั่งเศส เมนูนี้เป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์และกลมกลืนของส่วนผสมหลักสองอย่าง ไก่ coq และ ไวน์ vin สูตรนี้ส่วนใหญ่จะใช้ไวน์แดงที่รสจัดเข้มข้นมาทำ
วิธีทำทำด้วยการ หั่นไก่เป็นท่อนๆ และผสมกับเลือดไก่ หัวหอม แครอท กระเทียม โหระพา ใบกระวาน ผักชีฝรั่ง เห็ด เกลือ พริกไทย และไวน์แดงปริมาณมาก จากนั้นค่อยๆตุ๋นส่วนผสมจนงวด เลี้ยงด้วยไฟอ่อนๆ จนเนื้อนุ่ม
อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ
รับรองว่า คุณจะทำอาหารได้อร่อยจนคนทั้งบ้านชมไม่ขาดปากเลยค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ
Facebook: RosalynTH
ดูสูตรเด็ดอื่นๆ หน้าหลักรสรินทร์
[vc_row][vc_column][vc_single_image image=”1894″ img_size=”full” alignment=”center” onclick=”custom_link” link=”https://store.line.me/stickershop/product/5353487/en”][/vc_column][/vc_row]
