ขนมอาลัว ขนมหลากสีสันที่มีมาแต่สมัยอยุธยา

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF




ขนมอาลัว

ขนมอาลัว ขนมหลากสีสันที่มีมาแต่สมัยอยุธยา

ขนมอาลัว (Ar Lua) วันนี้แอดรินจะนำเสนอเมนูขนมไทย นั่นคือขนมอาลัว เป็นขนมรสชาติหวาน หอม สีสันสดใส เท่าไหร่ก็ไม่พอ ใครได้ชิมต้องพากันหลงรัก แป้ง ผสมน้ำตาล แล้วกวนจนล่อน เสร็จแล้วก็มาเติมสี แล้วบีบเป็นเม็ดสวย สุดท้ายเอาไปตากแดดรอจนแห้ง เพื่อนๆสามารถทำตามได้เลยค่ะ วิธีทำเป็นขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ความอร่อยระดับ 5 ดาวค่ะสูตรนี้เอาไปเลย เป็นขนมที่ได้รับอิทธิพลจากขนมสไตล์โปรตุเกส คิดค้นโดยท้าวทองกีบม้า ลักษณะขนมอาลัวโบราณจะมีผิวด้านนอกที่กรอบ แต่ด้านในนุ่มละมุน แค่เคี้ยวก็ได้กลิ่นมะลิหอมฟุ้งไปทั่วปาก

โดยคำว่า “อาลัว” จะหมายถึง เสน่ห์ดึงดูดใจ เอาล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาทำขนมอาลัวกัน เมนูนี้อาจเป็นเมนูซิกเนเจอร์ ของเพื่อนๆก็ได้ มาค่ะ ดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูขนมอาลัวกันเลยค่ะ

ขนมอาลัว ดาวน์โหลดสูตร icon


สูตรขนมอาลัว
แป้งเค้ก 145 กรัม
น้ำตาลทราย 350 กรัม
กะทิ 500 กรัม
กลิ่นมะลิ 1/4 ช้อนชา
สีผสมอาหาร(ตามชอบ)

ขนมอาลัว ดาวน์โหลดสูตร icon


วิธีทำขนมอาลัว
ร่อนแป้ง ต่อจากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไป คนจนเข้ากัน
ค่อยๆ ใส่กะทิลงไป สามารถเพิ่มกลิ่นได้ค่ะ พอผสมกันต่อจากนั้นเทส่วนผสมลงไปในกระทะ
ค่อยๆ กวนด้วยไฟอ่อน พอเริ่มล่อนจากกระทะก็ดับเตา
แบ่งใส่ชาม ผสมสีตามชอบ ผสมให้คลายร้อนลงบ้าง หลังจากนั้นเอาใส่ถุงบีบ
หลังจากนั้นบีบลงในถาด จึงนำไปตากแดดเป็นเวลา 2-3 วัน
พอครบสามวันแล้วเก็บขนมใส่ขวดโหล ปิดภาชนะให้มิดชิด เก็บไว้กินได้นาน ทานให้อร่อยนะคะ

ดาวน์โหลดสูตร icon


ขอขอบคุณข้อมูล – คุณ ครัวป้ามารายห์ จาก youtube

วัตถุดิบขนมอาลัว
แป้งเค้ก
แป้งเค้ก มีปริมาณโปรตีนต่ำสุดของแป้งทั้งหมดอยู่ที่ 5 ถึง 8 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุนี้ จึงมีกลูเตนน้อย ซึ่งทำให้ขนมอบนุ่มขึ้น เหมาะสำหรับทำเค้ก มัฟฟิน และบิสกิต แป้งเค้กยังดูดซับของเหลวและน้ำตาลได้ดีกว่าแป้งอเนกประสงค์ ซึ่งรับประกันว่าเค้กจะชุ่มชื้นเป็นพิเศษ การใช้แป้งเค้กเหมาะกับขนม หรือส่วนประกอบที่มีเนื้อเบา ฟูนุ่มมือ โดยเนื้อแป้งจะมีความขาวเนียน เหมาะสำหรับการทำ เค้ก คุ้กกี้ ,บราวนี่ ,แป้งพาย , บิสกิต
น้ำตาลทราย
น้ำตาลทราย ทำจากอ้อย มีรสหวานแหลม มีทั้งเม็ดละเอียด และเม็ดหยาบ นิยมใช้น้ำตาลทรายขาว เพื่อให้อาหารมีสีสวย ใสไม่ขุ่นมัว โดยสามารถนำมาทำน้ำเชื่อมและใช้ประกอบอาหารได้เช่นกัน
กะทิ
กะทิสด ได้จากการขูดมะพร้าวแล้วนำมาคั้นจะได้ 2 ส่วนคือ หัวกะทิ หรือส่วนที่เข้มข้น หางกะทิ คือส่วนที่เจือจาง นิยมทำจากมะพร้าวขูดขาว คือมะพร้าวที่กะเทาะเนื้อจากกะลา แล้วปอกเปลือกส่วนที่เป็นสีน้ำตาลออก เมื่อนำไปขูดจะได้มะพร้าวที่ขาวสะอาด กราเลือกซื้อควรซื้อร้านที่ดี เพื่อให้ได้กะทิสดใหม่มีกลิ่นหอม ถ้ามะพร้าวเก่าจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ประกอบอาหารจะมีกลิ่นและรสไม่่ดี

 

เคล็ดลับรสรินทร์

ส่วนผสมต้องใช้วัตถุดิบเกรดเอ ไม่ว่าจะเป็นแป้งสาลี น้ำตาล และกะทิ ไม่ใส่สารกันบูดหรือกันเสียใดๆ ทั้งสิ้น

ส่วนขั้นตอนเคี่ยววัตถุดิบให้เข้ากันจะใช้เตาถ่าน ช่วยให้มีกลิ่นหอมมากกว่าเคี่ยวด้วยเตาแก๊ส

ถ้าปั้นเป็นเม็ดด้วยมือ ซึ่งจะทำให้เนื้อขนมมีเปลือกบางกรอบ เมื่อใส่เข้าปากแล้วแทบจะสลายไปในทันที ส่วนเนื้อในนุ่มหนึบ ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าว จะหาไม่ได้หากทำโดยใช้ที่บีบเค้ก เพราะจะทำให้ เปลือกนอกแข็งและหนา

 

ประวัติขนมอาลัว

ขนมอาลัว เป็นขนมหวานที่ทำจากแป้ง ผิวด้านนอกจะเป็นน้ำตาลแข็ง ด้านในเป็นแป้งหนืด มักทำเป็นอันเล็ก ๆ มีหลายสี มีกลิ่นหอมหวาน ชื่อขนมมีความหมายว่า เสน่ห์ดึงดูดใจ ขนมอาลัวมีต้นกำเนิดมาจากประเทศโปรตุเกส ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย ครั้งแรกโดยคุณท้าวทองกีบม้า หรือ เลดี้ฮอร์ เดอควีมาร์ ภริยาของเจ้าพระยาวิชเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) ชาวกรีกซึ่งทำงานให้กับราชสำนักโปรตุเกส ภายหลังจึงมารับราชการในราชสำนักตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ขนมอาลัวยังแบ่งได้เป็นสองชนิด คือ อาลัวชาววัง และ อาลัวจิ๋ว โดยอาลัวชาววัง มีขนาดใหญ่กว่า และมีส่วนผสมของกะทิมากกว่าอาลัวจิ๋ว

ขนมอาลัว ดาวน์โหลดสูตร icon


Rosalyn Banner

อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ
รับรองว่า คุณจะทำอาหารได้อร่อยจนคนทั้งบ้านชมไม่ขาดปากเลยค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ

Facebook: RosalynTH

ดูสูตรเด็ดอื่นๆ หน้าหลักรสรินทร์[vc_row][vc_column][vc_single_image image=”1894″ img_size=”full” alignment=”center” onclick=”custom_link” link=”https://store.line.me/stickershop/product/5353487/en”][/vc_column][/vc_row]

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF