คุกกี้ช็อกโกแลตชิพ Chocolate Chip Cookies สูตรนุ่มๆเคี้ยวเพลิน
คุกกี้ช็อกโกแลตชิพ (Chocolate Chip Cookies) วันนี้แอดรินจะนำเสนอเมนูเบเกอรี่ นั่นคือคุกกี้ช็อกโกแลตชิพ สูตรที่เยี่ยมที่สุดของ คุกกี้ช็อกโกแลตชิพ เปลือกกรุบกรอบนิดๆ แต่เนื้อนุ่มเหนียว เคี้ยวหนึบหนับ เพลินปากมากจ่ะแม่ อร่อยจนคงทำ มงลงแน่นอน เพื่อนๆสามารถ เปิดสูตรและทำตามได้เลยค่ะ ความอร่อยระดับมิชิลินสตาร์ แต่ความยากระดับบ้านๆ
หากเพื่อนๆ รักช็อกโกแลตแล้วหละก็ สูตรนี้พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงค่ะ เนื้อคุกกี้นุ่มๆ ฉ่ำรสช็อกโกแลตชิ้นนี้ จะช่วยเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำของเพื่อนๆ เอาล่ะค่ะ เกริ่นมาเริ่มหิวแล้ว ไปทำกันค่ะ มาทำคุกกี้ช็อกโกแลตชิพกัน แค่นึกถึงเมนูนี้ น้ำลายก็ไหลแล้ว มาค่ะ ดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูคุกกี้ช็อกโกแลตชิพกันเลยค่ะ
| สูตรคุกกี้ช็อกโกแลตชิพ |
| น้ำตาลทรายแดง |
100 |
กรัม |
| น้ำตาลทราย |
50 |
กรัม |
| เนยจืด |
115 |
กรัม |
| ไข่ไก่ |
1 |
ฟอง |
| กลิ่นวานิลลา |
2 |
ช้อนชา |
| แป้งเอนกประสงค์ |
190 |
กรัม |
| เบกกิ้งโซดา |
3/4 |
ช้อนชา |
| เกลือ |
1/2 |
ช้อนชา |
| ช็อกโกแลตชิพ |
0.5 |
ถ้วย |
| วิธีทำคุกกี้ช็อกโกแลตชิพ |
| ในอ่างผสม ตีเนยละลาย น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลทรายขาว ตีจนกระทั่งครีมประมาณ 2 นาที |
| เติมไข่ไก่ กลิ่นวานิลลา ตีให้ผสมกันดี จนกระทั่งส่วนผสมเนียนผสมกันดีเป็นเนื้อเดียว ขูดด้านล่างและด้านข้างให้เหี้ยน อย่าให้เหลือค่ะ |
| ในอีกชามผสม ร่อนแป้งอเนกประสงค์ เบกกิ้งโซดา และเกลือเข้าไว้ด้วยกัน |
| เติมส่วนผสมแป้ง ลงในส่วนผสมเนย อัตราส่วน ครึ่ง ค่อยๆใส่ จนส่วนผสมผสมจนเข้ากันดี |
| ค่อยๆใส่ช็อกโกแลตชิพลงในแป้ง คนเบาๆให้เข้ากัน |
| ในกรณีที่ แป้งนิ่มเกินไป ให้ปิดฝาและแช่เย็น 20 นาที |
| วอร์มเตาอบที่ประมาน 350°F (175°C) วางกระดาษไขรองติด ลงบนถาด |
| ตักแป้งลงบนถาดรองอบที่เตรียมไว้ โดยเว้นช่องว่างระหว่างคุกกี้อย่างน้อย 3 นิ้ว (7.5 ซม.) |
| นำไปแช่เย็นราวๆ 30-40 นาที |
| นำเข้าอบ 10-12 นาที หรือจนขอบเหลืองทองเล็กน้อย |
| พักให้เย็นก่อนรับประทาน จะได้คุกกี้ช็อกโกแลตชิพ สูตรนุ่มๆเคี้ยวเพลิน ฟินๆกินหลังจากนั้นค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ |
ขอขอบคุณข้อมูล – คุณ The Cooking Foodie จาก Youtube
| วัตถุดิบคุกกี้ช็อกโกแลตชิพ |
| น้ำตาลทรายแดง |
| น้ำตาลทรายแดง เป็นน้ำตาลที่ได้จากน้ำอ้อยแบบเดียวกับน้ำตาลทรายธรรมชาติ แต่น้ำตาลทรายแดงนั้นลักษณะเป็นผงละเอียด มีกลิ่มหอมเฉพาะตัว ให้ความหวานน้อยกว่าน้ำตาลทรายขาว มีความชื้นสูงจึงมักจะจับตัวกันเป็นก้อน สีของน้ำตาลทรายแดงจะมีสีน้ำตาลอ่อนไล่ไปถึงสีน้ำตาลอมแดงขึ้นอยู่กับปริมาณของกากน้ำตาลที่ผสมอยู่ ถ้ามีกากน้ำตาลปะปนอยู่มากสีก็จะเข้มขึ้น รวมไปถึงรสชาติและกลิ่นก็จะชัดเจนตามไปด้วยค่ะ น้ำตาลทรายแดงมีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกมากขึ้น และยังช่วยลดอาการปวดด้วยค่ะ |
| น้ำตาลทราย |
| น้ำตาลทราย ทำจากอ้อย มีรสหวานแหลม มีทั้งเม็ดละเอียด และเม็ดหยาบ นิยมใช้น้ำตาลทรายขาว เพื่อให้อาหารมีสีสวย ใสไม่ขุ่นมัว โดยสามารถนำมาทำน้ำเชื่อมและใช้ประกอบอาหารได้เช่นกัน |
| เนยจืด |
| “เนย” (butter) คือผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันนมไม่น้อยกว่า 80% (ของน้ำหนัก) มีลักษณะเป็นก้อนแข็งเมื่อแช่เย็น และจะเริ่มนิ่มหรืออ่อนตัวลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นค่ะ เนยเกิดจากการเขย่า (churning) ครีมหรือนม เพื่อแยกไขมันออกมาจากนม กระบวนการนี้จะได้ไขมันเนย และบัตเตอร์มิลก์ ซึ่งเจ้าไขมันเนยตัวนี้จะถูกนำไปผ่านกระบวนการในอุณหภูมิต่ำจนแข็งตัวกลายเป็นเนยในแบบที่เราคุ้นเคยกันนั่นเองค่ะ โดยทั่วไปแล้วเนยจะทำจากนมวัว แต่ก็จะมีแบบที่ทำจากนมแพะ นมแกะ นมควาย ฯลฯ ซึ่งก็จะให้รสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกันไป |
| แป้งเอนกประสงค์ |
| แป้งสาลีอเนกประสงค์ เป็นแป้งสามัญประจำครัวที่มีติดทุกบ้าน ทำจากข้าวสาลี มีโปรตีนปานกลาง 10 ถึง 12 เปอร์เซ็นต์ แป้งอเนกประสงค์เหมาะสำหรับขนมอบทุกประเภท เช่น ขนมปัง บิสกิต พิซซ่า คุกกี้ มัฟฟิน ฯลฯ นอกจากนี้ยังใช้ในซอสเกรวี่ และเป็นตัวทำให้ซอสข้น |
| เบกกิ้งโซดา |
| เบกกิ้งโซดา (baking soda) มีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate) ใช้เป็นสารที่ทำให้ขึ้นฟู (leavening agent) ในผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ (bakery) สลายตัวเมื่อได้รับความร้อนและให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นด่าง ผงสีขาว มีรสเฝื่อน หากใช้มากเกินไปจะเหลือตกค้าง ทำให้เกิดรสเฝื่อน โดยเฉพาะเบเกอรี่ที่ใช้เบกกิ้งโซดาเป็นสารที่ทำให้ขึ้นฟู จึงใส่สารที่เป็นกรด เช่น น้ำมะนาว นมเปรี้ยว น้ำส้มสายชู (vinegar) เพื่อให้ทำปฏิกิริยากับเบกกิ้งโซดาที่เหลือตกค้าง |
| ช็อกโกแลตชิพ |
| ช็อกโกแลตชิพ เป็นช็อกโกแลตที่ถูกขึ้นรูปให้เป็นเม็ดเล็ก ๆ คล้ายหยดน้ำหรือแบบกลม มักจะมีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์ค่อนข้างน้อย บางครั้งก็อาจจะใช้ไขมันพืชและผสมแป้งเข้าไปด้วยทำให้ราคาถูกลงนั่นเองค่ะ และด้วยส่วนผสมที่ต่างจากช็อกโกแลตแบบอื่น ๆ ทำให้ช็อกโกแลตชิพนั้นทนความร้อนได้สูง ไม่ละลายเวลาอบ เลยเหมาะกับการใส่ในคุกกี้และแต่งหน้าขนมค่ะ |
ประวัติคุกกี้ช็อกโกแลตชิพ
คุกกี้ มีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 7 มาจากแถบเปอร์เซีย ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศอิหร่าน เป็นขนมที่ถูกคิดค้นขึ้นหลังจากที่ผู้คนเริ่มหันมาบริโภคน้ำตาล และเผยแพร่สู่ทวีปยุโรปหลังจากช่วงที่ประเทศสเปนเริ่มรุกรานมุสลิม ผ่านไปถึงศตวรรษที่ 14 คุกกี้ก็เริ่มเป็นที่นิยมของผู้คนทุกชนชั้นในทวีปยุโรป มีวางจำหน่ายในร้านอาหารหรูหราไปจนถึงร้านข้างทาง ข้อดีของขนมชนิดนี้คือเป็นของกินที่มีเก็บไว้ได้ค่อนข้างนาน นักเดินทางจึงนิยมพกพาติดตัวในการเดินทางระยะไกล
คุกกี้ประเภทแรกที่เป็นที่นิยมและแพร่หลายไปทั่วทุกทวีปคือ “Jumble cookies” ซึ่งมีส่วนผสมเป็นถั่วจำนวนมาก ต่อมาในช่วงปี ค.ศ.1620 พวกชาวดัตช์ก็เอาคุ้กกี้เข้าสู่ทวีปอเมริกา โดยชาวดัตช์จะเรียกขนมชนิดนี้ว่า “koekje” ซึ่งแปลได้ว่า “เค้กชิ้นเล็ก” ถัดมาในศตวรรษที่ 19 คนอังกฤษก็เริ่มมีความผูกพันกับขนมอบกรอบชนิดนี้และต้องมีติดบ้านไว้เป็นของทานเล่นระหว่างที่กำลังดื่มชา
อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ
รับรองว่า คุณจะทำอาหารได้อร่อยจนคนทั้งบ้านชมไม��ขาดปากเลยค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ
Facebook: RosalynTH
ดูสูตรเด็ดอื่นๆ หน้าหลักรสรินทร์[vc_row][vc_column][vc_single_image image=”1894″ img_size=”full” alignment=”center” onclick=”custom_link” link=”https://store.line.me/stickershop/product/5353487/en”][/vc_column][/vc_row]
Views: 11,804
