วานิลลาคัพเค้ก Vanilla Cupcakes สูตรที่ทุกคนจะหลงรัก
วานิลลาคัพเค้ก (Vanilla Cupcakes) วันนี้รสรินทร์จะมาชวนทำเบเกอรี่ นั่นคือวานิลลาคัพเค้ก ถ้าพูดถึงงานปาร์ตี้ ก็หนีไม่พ้นคัพเค้กน่ารักๆ เอาไปเลยค่ะคัพเค้กสูตรอร่อย ที่จะละลายใจคนด้วย วานิลลาคัพเค้ก สูตรทำง่ายแต่ครองใจคน เนื้อเค้กนุ่มๆ หอมๆตัดกับ วานิลลาฟรอสติ้งอื้อหือสุดยอด ใครได้ชิมต้องพากันหลงรัก เพื่อนๆสามารถ ทำตามได้ง่ายๆเลยค่ะ ความอร่อยของสูตรนี้เอาไปเลยค่ะ ระดับมิชิลินสตาร์
คัพเค้กมีหลากหลายสูตรนะคะ แต่สูตรนี้จะทำให้เพื่อนๆหลงรัก เค้กวานิลลาสูตรเด็ด เริ่มจากตีไข่ขาวจนตั้งยอดเกือบแข็งแล้วใส่ไข่แดงลงไปตีจนเข้ากัน เติมเนย นม และแป้งร่อน เสร็จแล้วหยอดใส่พิมพ์และอบจนสุก แต่งด้วยวิปครีม เอาล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาทำวานิลลาคัพเค้กกัน แคคิดก็น้ำลายไหลแล้ว มาค่ะ ดาวน์โหลดสูตร มือขวาควงตะหลิว มือซ้ายจับกระทะ สาวเท้าก้าวเข้าครัวไปกับเมนูวานิลลาคัพเค้กกันเลยค่ะ
สูตรวานิลลาคัพเค้ก |
สำหรับคัพเค้ก |
|
|
แป้งเค้ก |
156 |
กรัม |
เบกกิ้งโซดา |
1/4 |
ช้อนชา |
ผงฟู |
1/2 |
ช้อนชา |
น้ำตาล |
125 |
กรัม |
เกลือ |
1/4 |
ช้อนชา |
เนย |
115 |
กรัม |
ไข่ |
2 |
ฟอง |
กลิ่นวานิลลา |
1 |
ช้อนชา |
บัตเตอร์มิลค์ |
1/2 |
ถ้วย |
น้ำมันพืช |
1/2 |
ถ้วย |
สำหรับฟรอสติ้ง |
|
|
เนยละลาย |
115 |
กรัม |
น้ำตาลไอซิ่ง |
190 |
กรัม |
กลิ่นวานิลลา |
1 |
ช้อนชา |
นมสด |
2 |
ช้อนชา |
วิธีทำวานิลลาคัพเค้ก |
– วิธีทำคัพเค้ก |
วอร์มเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 350F (175C) |
ในอ่างผสม ตีเนยและน้ำตาลจนเนียน ใส่ไข่ทีละฟอง ตีจนเข้ากันจากนั้น ใส่น้ำมัน กลิ่นวานิลลา บัตเตอร์มิลค์ จากนั้นตีให้เข้ากัน จนส่วนผสมเนื้อเนียนเข้ากัน |
ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือ ผสมจนเข้ากันดี |
ตักแป้งลงในถ้วยคัพเค้ก ราวๆ สามส่วนสี่ ถ้วยของปริมาตรทั้งหมด |
นำเข้าอบประมาณ 20 นาที ทดสอบความสุกโดยการ จิ้มไม้จิ้มฟันลงไปกึ่งกลาง ถ้าออกมาสะอาด ไม่มีเศษแป้งแสดงว่าสุกหลังจากนั้น พักให้คัพเค้กเย็นลงบนตะแกรง |
– วิธีทำฟรอสติ้ง |
ในชามผสม ตีเนยจนฟูและฟูราว 4-5 นาที ตีน้ำตาลผง 1/2 ถ้วยต่อครั้ง ระหว่างตีนั้น ใส่กลิ่นวานิลลา นม ต่อจากนั้นตีจนเข้ากันดีดี |
นำฟรอสติ้งครีม ใส่ในถุงบีบ นำไปตกแต่งเป็นหน้าคัพเค้กตามต้องการ ทานให้อร่อยนะคะ |
ขอขอบคุณข้อมูล – คุณ The cooking Foodie จาก Youtube
วัตถุดิบวานิลลาคัพเค้ก |
แป้งเค้ก |
แป้งเค้ก มีปริมาณโปรตีนต่ำสุดของแป้งทั้งหมดอยู่ที่ 5 ถึง 8 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเหตุนี้ จึงมีกลูเตนน้อย ซึ่งทำให้ขนมอบนุ่มขึ้น เหมาะสำหรับทำเค้ก มัฟฟิน และบิสกิต แป้งเค้กยังดูดซับของเหลวและน้ำตาลได้ดีกว่าแป้งอเนกประสงค์ ซึ่งรับประกันว่าเค้กจะชุ่มชื้นเป็นพิเศษ การใช้แป้งเค้กเหมาะกับขนม หรือส่วนประกอบที่มีเนื้อเบา ฟูนุ่มมือ โดยเนื้อแป้งจะมีความขาวเนียน เหมาะสำหรับการทำ เค้ก คุ้กกี้ ,บราวนี่ ,แป้งพาย , บิสกิต |
เบกกิ้งโซดา |
เบกกิ้งโซดา (baking soda) มีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate) ใช้เป็นสารที่ทำให้ขึ้นฟู (leavening agent) ในผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ (bakery) สลายตัวเมื่อได้รับความร้อนและให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นด่าง ผงสีขาว มีรสเฝื่อน หากใช้มากเกินไปจะเหลือตกค้าง ทำให้เกิดรสเฝื่อน โดยเฉพาะเบเกอรี่ที่ใช้เบกกิ้งโซดาเป็นสารที่ทำให้ขึ้นฟู จึงใส่สารที่เป็นกรด เช่น น้ำมะนาว นมเปรี้ยว น้ำส้มสายชู (vinegar) เพื่อให้ทำปฏิกิริยากับเบกกิ้งโซดาที่เหลือตกค้าง |
ผงฟู |
ผงฟู (Baking Powder) ผงฟูมีส่วนผสมระหว่างเบกกิ้งโซดากับกรดหรือเกลือของกรดและแป้ง ซึ่งระหว่างการผสมหรืออบนั้น ส่วนผสมที่เป็นกรด จะทำปฏิกิริยากับเบกกิ้งโซดา จึงทำให้เกิดฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขนมจึงขึ้นฟูและเนื้อนุ่ม ในส่วนใหญ่จะต้องร่อนรวมกับของแห้งชนิดอื่น เช่นแป้ง นมผง ไม่ควรผสมลงในของเหลวเพราะจะทำให้เกิด ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทันที และ จะทำให้สูญเสียก๊าซไป |
น้ำตาล |
น้ำตาลทราย ทำจากอ้อย มีรสหวานแหลม มีทั้งเม็ดละเอียด และเม็ดหยาบ นิยมใช้น้ำตาลทรายขาว เพื่อให้อาหารมีสีสวย ใสไม่ขุ่นมัว โดยสามารถนำมาทำน้ำเชื่อมและใช้ประกอบอาหารได้เช่นกัน |
เนย |
“เนย” (butter) คือผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันนมไม่น้อยกว่า 80% (ของน้ำหนัก) มีลักษณะเป็นก้อนแข็งเมื่อแช่เย็น และจะเริ่มนิ่มหรืออ่อนตัวลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นค่ะ เนยเกิดจากการเขย่า (churning) ครีมหรือนม เพื่อแยกไขมันออกมาจากนม กระบวนการนี้จะได้ไขมันเนย และบัตเตอร์มิลก์ ซึ่งเจ้าไขมันเนยตัวนี้จะถูกนำไปผ่านกระบวนการในอุณหภูมิต่ำจนแข็งตัวกลายเป็นเนยในแบบที่เราคุ้นเคยกันนั่นเองค่ะ โดยทั่วไปแล้วเนยจะทำจากนมวัว แต่ก็จะมีแบบที่ทำจากนมแพะ นมแกะ นมควาย ฯลฯ ซึ่งก็จะให้รสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกันไป |
บัตเตอร์มิลค์ |
บัตเตอร์มิลค์ บัตเตอร์มิลค์เป็นของเหลวที่ได้จาก ตีครีมเพื่อเปลี่ยนเป็นเนย. ง่ายๆแค่นั้นเอง เนื้อสัมผัสคล้ายกับนมพร่องมันเนยและรสชาติของมันมีรสขม ในการทำขนมจะใช้เพราะมันเพิ่มความ ความเป็นฟอง ของมวลชนและให้ รสชาติ เหมาะสำหรับสโคนและคัพเค้ก |
น้ำมันพืช |
น้ำมันพืช น้ำมันพืชส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งมีองค์ประกอบทางเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าน้ำมันสัตว์ ไขมันไม่อิ่มตัวนี้จะไม่ค่อยเป็นไข แม้จะอยู่ในที่เย็นเช่น แช่ตู้เย็น แต่จะทำปฏิกิริยากับความร้อนและออกซิเจนได้ง่าย และมักทำให้เกิดกลิ่นเหม็นหืนภายหลังจากใช้ประกอบอาหารแล้ว |
ประวัติวานิลลาคัพเค้ก
คัพเค้ก Cupcake ที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ว่ากันว่าจุดเริ่มต้นมาจากแม่บ้านคนหนึ่งอยากทำขนมเค้กชิ้นเล็กๆ ให้สมาชิกในบ้าน แต่แทนที่จะใช้พิมพ์ปอนด์เหมือนปกติทั่วไป กลับหันมาใช้ถ้วยใส่อาหารแทน หลังจากนั้นความนิยมของคัพเค้กก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมีการผลิตพิมพ์สำหรับคัพเค้กและกลายเป็นที่แพร่หลายจนถึงปัจจุบันนี้
ทั้งนี้คัพเค้กยังเป็นที่นิยมสำหรับสาวๆหนุ่มๆที่ชอบทานขนมหวานในส่วนผสมของของคัพเค้กจะแตกต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับรสที่เราเลือก สำหรับทำคัพเค้กจะมีหลากหลายแบบด้วยกัน แล้วแต่ว่าใครจะชอบแบบไหน แต่แบบดั้งเดิมและเหมาะสำหรับทำคัพเค้กมากที่สุดก็คือ “บัตเตอร์เค้ก” เพราะถ้าเทียบกับสปันจ์เค้กที่มีเนื้อนุ่มปานกลาง หรือเทียบกับชิฟฟอนเค้ก ซึ่งมีเนื้อนุ่มเบาที่สุดนั้น การทำคัพเค้กจำเป็นต้องได้เนื้อเค้กที่คงรูปได้ดี แม้จะถอดจากพิมพ์ เนื้อเค้กต้องไม่ยุบหรือหดตัว คัพเค้กที่ดีจะต้องมีกลิ่นหอมของเนย รสชสติเข้มข้น เนื้อแน่นแต่นุ่มลิ้น และไม่แห้งจนเกินไป ดังนั้นจึงไม่ควรเปรียบเทียบรสชาติกับสปันจ์เค้กหรือชิฟฟอนเค้ก เพราะถือว่าเป็นเค้กคนละชนิดกัน
อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ
รับรองว่า คุณจะทำอาหารได้อร่อยจนคนทั้งบ้านชมไม่ขาดปากเลยค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ
Facebook: RosalynTH
ดูสูตรเด็ดอื่นๆ หน้าหลักรสรินทร์[vc_row][vc_column][vc_single_image image=”1894″ img_size=”full” alignment=”center” onclick=”custom_link” link=”https://store.line.me/stickershop/product/5353487/en”][/vc_column][/vc_row]
Views: 12,117