กาแฟสเปเชียลตี้ VS กาแฟทั่วไป ความแตกต่างที่คอกาแฟควรรู้ก่อนจ่ายแพง

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF

กาแฟสเปเชียลตี้ VS กาแฟทั่วไป ความแตกต่างที่คอกาแฟควรรู้ก่อนจ่ายแพง

กาแฟสเปเชียลตี้ VS กาแฟทั่วไป ความแตกต่างที่คอกาแฟควรรู้ก่อนจ่ายแพง

รู้ไหมว่า “กาแฟแพง” ที่คุณจ่าย มันคุ้มค่าจริงๆ หรือเปล่า

ถ้าเพื่อนๆเป็นคนนึงที่ยอมจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อแก้วกาแฟหอมๆ สักแก้ว แน่นอนว่าคุณอาจเคยสงสัยว่า

“ทำไมกาแฟบางร้านถึงราคาสูงลิบลิ่ว ในขณะที่บางร้านขายแก้วละไม่กี่สิบบาท”

และนี่คือสิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้ กาแฟสเปเชียลตี้ (Specialty Coffee) กับ กาแฟทั่วไป (Commercial Coffee) ไม่ได้ต่างกันแค่ราคา แต่แตกต่างตั้งแต่แหล่งที่มา กระบวนการผลิต ไปจนถึงรสชาติที่คุณจะได้ลิ้มลอง

ถ้าไม่อยากเสียเงินฟรีเพราะไม่เข้าใจความแตกต่าง วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเจาะลึกทุกประเด็นที่คอกาแฟต้องรู้ก่อนตัดสินใจจ่ายเงิน

ไขทุกข้อสงสัย อะไรทำให้กาแฟสเปเชียลตี้ “พิเศษ” กว่ากาแฟทั่วไป

1. เริ่มจาก “ถิ่นกำเนิด” ที่ต่างกันอย่างชัดเจน

กาแฟสเปเชียลตี้มักปลูกในพื้นที่เฉพาะที่เหมาะสมทางภูมิอากาศ และมีกระบวนการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ในขณะที่กาแฟทั่วไปมักผลิตแบบอุตสาหกรรม

  • Specialty Coffee เลือกเพาะปลูกในพื้นที่สูง อุณหภูมิดี ดินสมบูรณ์ (เช่น อาราบิก้าจากเอธิโอเปีย โคลอมเบีย)
  • Commercial Coffee ปลูกปริมาณมาก คุณภาพไม่สม่ำเสมอ บางส่วนอาจใช้โรบัสต้าที่มีคาเฟอีนสูงแต่ให้รสขม

2. “การเก็บเกี่ยวและกระบวนการผลิต” ที่ใส่ใจทุกขั้นตอน

กาแฟสเปเชียลตี้ผ่านการคัดเกรดอย่างเข้มงวด (คะแนน 80+ จากการทดสอบโดย SCA) ในขณะที่กาแฟทั่วไปเน้นปริมาณ

  • Specialty Coffee เก็บเฉพาะเชอร์รีสุกเท่านั้น ผ่านการล้างหรือแห้งอย่างพิถีพิถัน
  • Commercial Coffee เก็บทั้งสุกและดิบ อาจใช้เครื่องจักรเก็บทั้งหมด

3. “การคั่ว” ที่ส่งผลต่อรสชาติโดยตรง

กาแฟสเปเชียลตี้มักคั่วแบบ Light-Medium Roast เพื่อรักษารสชาติเดิมของเมล็ด ส่วนกาแฟทั่วไปมักคั่วเข้มเพื่อปกปิดข้อบกพร่อง

  • Specialty Coffee รสชาติซับซ้อน มีความเป็นกรดบางๆ กลิ่นผลไม้หรือดอกไม้
  • Commercial Coffee รสขม เข้มหนึบ มักเติมน้ำตาลหรือครีมเพื่อปรับรส

4. “การชง” ที่ทำให้รสชาติแตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อ

กาแฟสเปเชียลตี้มักชงด้วยมือ (Pour Over, AeroPress) เพื่อควบคุมรสชาติ ในขณะที่กาแฟทั่วไปมักชงด้วยเครื่องอัตโนมัติ

แล้วทำไมคุณถึงควรเลือกกาแฟสเปเชียลตี้

  1. รสชาติที่แท้จริงของกาแฟ – คุณจะได้สัมผัสรสชาติหลากหลายตามพันธุ์และแหล่งปลูก
  2. ส่งเสริมเกษตรกรอย่างยั่งยืน – การซื้อกาแฟสเปเชียลตี้ช่วยให้เกษตรกรได้ราคาดี
  3. ดีต่อสุขภาพกว่า – กระบวนการผลิตที่สะอาดและไม่มีสารเคมีตกค้าง
  4. ประสบการณ์ใหม่ที่คุ้มค่า – เหมือนการได้ลิ้มลองไวน์ดีๆ สักแก้ว

ถ้าเพื่อนๆรักกาแฟและอยากอัพเกรดประสบการณ์การดื่ม นี่คือทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าการซื้อกาแฟทั่วไปในราคาถูกแต่รสชาติไม่มีความพิเศษใดๆ

อยากลองกาแฟสเปเชียลตี้ด้วยตัวเอง เริ่มยังไงดี

  1. ลองสั่งกาแฟจากร้านสเปเชียลตี้ใกล้บ้าน – ขอเมนู Single Origin หรือกาแฟคั่วอ่อน
  2. ชิมแบบ Black ก่อน – เพื่อสัมผัสรสชาติแท้ๆ โดยไม่เติมนมหรือน้ำตาล
  3. ถามบาริสตา – พวกเขามักยินดีแนะนำว่ากาแฟพันธุ์ไหนน่าลอง
  4. เริ่มจากแก้วเล็ก – ไม่ต้องเสียเงินเยอะ ลองก่อนว่าชอบไหม

อย่าเพิ่งตัดสินว่าแย่ถ้าไม่ถูกปากในครั้งแรก เพราะกาแฟสเปเชียลตี้มีรสชาติเฉพาะตัวที่อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้

ถ้าวันนี้คุณเดินผ่านร้านกาแฟสเปเชียลตี้ ลองแวะเข้าไปสั่งสักแก้ว แล้วคุณอาจพบว่า โลกของกาแฟมีอะไรมากกว่าที่คุณเคยคิด

 

 

Rosalyn Banner

อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์ แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ

⚠️

Disclaimer

ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเพื่อประกอบการตัดสินใจ ทางเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจตามข้อมูลที่ได้รับ

ArticleID: 974

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF