ประวัติความเป็นมาของกาแฟลาเต้และ Flat White จากจุดเริ่มต้นสู่เมนูยอดนิยมในยุคปัจจุบัน
คุณรู้ไหมว่า “ลาเต้” และ “Flat White” ต่างกันยังไง
ถ้าเพื่อนๆเป็นคนนึงที่รักกลิ่นหอมของกาแฟในทุกๆ เช้า หรือหลงใหลในฟองนมเนียนๆ ที่ลอยอยู่บนแก้วร้อนๆ ล่ะก็คุณอาจจะดื่มกาแฟทั้ง 2 แบบนี้โดยไม่รู้ตัวว่าจริงๆ แล้วมันมีความแตกต่างและประวัติที่น่าสนใจมากกว่าที่คิด
วันนี้แอดรินจะพาย้อนรอยไปดูกันว่า กาแฟลาเต้ และ Flat White เกิดขึ้นได้ยังไง ทำไมถึงกลายเป็นเมนูที่คนทั่วโลกติดใจ แล้วแบบไหนที่เหมาะกับรสนิยมของเพื่อนๆมากที่สุด ไปค้นหาคำตอบพร้อมกันเลย
ย้อนเส้นทางประวัติศาสตร์ของกาแฟลาเต้ vs. Flat White
กาแฟลาเต้ (Latte) – เครื่องดื่มแสนอบอุ่นจากอิตาลี
กาแฟลาเต้ หรือ “Caffè Latte” ในภาษาอิตาลี แปลตรงตัวว่า “นมกับกาแฟ” นั่นเอง เมนูนี้มีต้นกำเนิดมาจาก วัฒนธรรมการดื่มกาแฟแบบอิตาเลียน ที่นิยมเสิร์ฟกาแฟ espresso ผสมกับนมร้อนในสัดส่วนที่เยอะกว่ากาแฟแบบอื่น
- จุดเริ่มต้น แม้จะไม่มีการบันทึกแน่ชัด แต่เชื่อว่าลาเต้ถือกำเนิดขึ้นใน ช่วงศตวรรษที่ 17-18 โดยชาวอิตาลีที่ต้องการลดความขมของกาแฟด้วยนม
- ความนิยมในยุคใหม่ ลาเต้กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างเมื่อ Starbucks นำเสนอเมนูนี้ในสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษ 1980 และปรับสูตรให้มีฟองนมหนานุ่ม จนกลายเป็นเมนูยอดฮิต
สูตรลาเต้คลาสสิก
– 1 ส่วน espresso (30 ml)
– 3 ส่วนนมร้อน (90 ml)
– ฟองนมบางๆ อยู่ด้านบน
Flat White – กาแฟเนียนละมุนจากออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์
Flat White เป็นกาแฟที่โด่งดังมาจาก ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ในช่วง ทศวรรษ 1980 (แต่ทั้งสองประเทศยังเถียงกันอยู่ว่าใครเป็นผู้คิดค้นก่อน) ความพิเศษของน้องคือ ความเข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่เนียนกว่าลาเต้
- ที่มาของชื่อ คำว่า “Flat” หมายถึง ฟองนมที่บางเรียบ ไม่หนานุ่มเหมือนลาเต้
- จุดเด่น มีสัดส่วนกาแฟมากกว่านม ทำให้ได้รสชาติที่เข้มกว่า และเน้น ความกลมกล่อมของ espresso
สูตร Flat White คลาสสิก
– 2 ส่วน espresso (60 ml)
– 4 ส่วนนมร้อน (120 ml)
– ฟองนมบางเนียน
ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างลาเต้ vs. Flat White
| เรื่องเปรียบเทียบ | ลาเต้ (Latte) | Flat White |
|—————————–|——————————–|——————————–|
| สัดส่วนกาแฟ-นม | นมเยอะ กาแฟน้อย | กาแฟเยอะ นมน้อย |
| ความเข้มข้น | เบา เน้นรสชาติครีมมี่ | เข้มข้น เน้นรส espresso |
| เนื้อสัมผัสฟองนม | ฟองหนานุ่ม | ฟองบางเรียบเนียน |
| ขนาดแก้ว | มักเสิร์ฟในแก้วใหญ่ (8-12 oz) | เสิร์ฟในแก้วเล็กกว่า (5-6 oz) |
ทำไมเพื่อนๆควรรู้จักกาแฟทั้งสองแบบนี้ให้ลึกขึ้น
- เลือกกาแฟได้ตรงรสนิยม ถ้าชอบความครีมมี่ นุ่มละมุน → เลือกลาเต้ แต่ถ้าชอบความเข้มข้นแบบเน้นรสกาแฟ → Flat White คือคำตอบ
- เพิ่มความเชี่ยวชาญในโลกกาแฟ การรู้ประวัติและความแตกต่างช่วยให้คุณอธิบายหรือสั่งกาแฟได้อย่างมั่นใจ
- ลองทำเองที่บ้าน เมื่อรู้สูตรและที่มาแล้ว คุณสามารถทดลองชงลาเต้หรือ Flat White แบบโปรได้ด้วยตัวเอง
ถึงเวลาลองชิม (หรือชง) สักแก้วแล้ว
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอย่ารอช้า ลองไปสั่งลาเต้หรือ Flat White สักแก้วตามร้านโปรด แล้วสังเกตความแตกต่างด้วยตัวเอง หรือถ้าอยากเป็นบาริสต้าขั้นเทพ ลองหาซื้ออุปกรณ์ชงกาแฟและฝึกทำตามสูตรที่เราแนะนำดูสิ
ถ้าได้ลองแล้ว อย่าลืมมาบอกกันนะว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะกับเรื่องราวน่ารู้ของกาแฟอีกมากมายที่เพื่อนๆอาจยังไม่รู้
อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์ แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ
⚠️
Disclaimer
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเพื่อประกอบการตัดสินใจ ทางเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจตามข้อมูลที่ได้รับ
อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์ แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ
⚠️
Disclaimer
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเพื่อประกอบการตัดสินใจ ทางเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจตามข้อมูลที่ได้รับ
ArticleID: 1070
