กาแฟช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้จริงหรือ
คุณรู้ไหมว่าแก้วกาแฟประจำวันอาจเป็นเกราะป้องกันโรคเบาหวานได้
ถ้าเพื่อนๆเป็นคนหนึ่งที่ตื่นมาพร้อมกับกลิ่นหอมของกาแฟทุกเช้า หรือต้องพึ่งคาเฟอีนเพื่อให้มีพลังตลอดวัน เรามีข่าวดีมาบอก งานวิจัยล่าสุดเผยว่าการดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้จริงๆ แต่จะจริงแค่ไหน มาติดตามกันเลย
เปิดเผยความลับของกาแฟกับโรคเบาหวานแบบเจาะลึก
1. วิทยาศาสตร์บอกอะไรบ้าง
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 3-5 แก้ว มีความเสี่ยงโรคเบาหวานลดลง 23-50% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ดื่มเลย สาเหตุหลักมาจากสารต้านอนุมูลอิสระและสารออกฤทธิ์ในกาแฟ เช่น คลอโรจениก แอซิด (Chlorogenic Acid) ที่ช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลในลำไส้ และปรับสมดุลอินซูลิน
2. กาแฟแบบไหนได้ผลที่สุด
- กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเพราะให้ประโยชน์เต็มที่
- กาแฟเย็นหรือกาแฟสำเร็จรูป อาจมีน้ำตาลและไขมันสูง ควรระวัง
- กาแฟคั่วกลาง (Medium Roast) มีคลอโรจีนิก แอซิดสูงกว่าคั่วเข้ม
3. ข้อควรระวังที่เพื่อนๆ ต้องรู้
ถึงแม้กาแฟจะมีประโยชน์ แต่ถ้าดื่มมากเกินไปอาจส่งผลเสีย เช่น
– นอนไม่หลับ หากดื่มช่วงเย็น
– ใจสั่น ในคนที่ไวต่อคาเฟอีน
– ควรจำกัดปริมาณ ไม่เกิน 400 มก. คาเฟอีน/วัน (ประมาณ 3-4 แก้ว)
ทำไมเพื่อนๆควรเริ่มดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมวันนี้
เพราะโรคเบาหวานเป็นภัยเงียบที่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ ไตวาย และเส้นประสาทถูกทำลาย การปรับพฤติกรรมง่ายๆ แค่เลือกดื่มกาแฟอย่างชาญฉลาด ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้โดยไม่ต้องพึ่งยาหรือวิธีที่ยุ่งยาก
มาเริ่มต้นวันนี้ด้วยกาแฟแก้วโปรด เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น
ถ้าเพื่อนๆรักกาแฟอยู่แล้ว ลองปรับวิธีดื่มให้ดีต่อสุขภาพด้วยนะคะ เช่น
✅ เลือกกาแฟดำแทนกาแฟหวาน
✅ ไม่เกิน 3-4 แก้วต่อวัน
✅ ดื่มก่อนบ่าย 3 โมง เพื่อหลีกเลี่ยงการนอนไม่หลับ
อย่าลืมว่า กาแฟเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของการใช้ชีวิตสุขภาพดี ทานอาหารครบหมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะ
แล้วเพื่อนๆล่ะ วันนี้ดื่มกาแฟแล้วหรือยัง ☕
อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์ แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ
⚠️
Disclaimer
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเพื่อประกอบการตัดสินใจ ทางเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจตามข้อมูลที่ได้รับ
ArticleID: 987