10 สูตรขนมจีน รสเด็ดถึงใจ ทำกินก็ได้ ทำขายก็รวย

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF




สูตรขนมจีน รสรินทร์

10 สูตรขนมจีน ทำกินได้ ทำขายรวย

สูตรขนมจีน ทำกินได้ ทำขายรวย วันนี้รสรินทร์มากับสิ่งดีๆ คอมโบ รวมมิตร สูตรขนมจีน จำนวน 10 สูตรรวดค่ะ จะเป็นเมนูยอดฮิตสูตรขนมจีน 10 สูตร เปิดร้านกันได้เลยนะคะว่าด้วยเรื่องขนมจีนเนี่ย มีเส้นอยู่สองชนิดนะคะ แบบแรกเป็น ขนมจีนแป้งหมัก ทำได้โดยการนำข้าวมาแช่น้ำให้นิ่ม โม่ให้เป็นแป้งและ หมักแป้งข้าวเจ้า มานวดในเครื่องนวดแป้งก่อนบีบเป็นเส้นขนมจีน ต่อไปค่ะ อีกแบบหนึ่งคือ ขนมจีนแป้งสด ใช้วิธีการผสมแป้งข้าวเจ้า ไม่ต้องหมักทิ้งไว้ และนำเข้าเครื่องนวดแป้งทันที

ประการต่อมา ขนมจีน ไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากเมืองจีน แต่อย่างใดค่ะ จะไปหาร้านที่มีขายขนมจีน ผักเยอะๆแบบบ้านเราก็ไม่มีนะคะ ขนมจีนมีที่มาจาก คนมอญ หรือ รามัญที่เรียก อาหารประเภทนี้ว่า คนอมจิน คำว่า คนอม แปลว่า จับกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน และ จิน แปลว่าทำให้สุก สันนิษฐานว่าเป็นอาหารป๊อปปูล่าในหมู่ชาวมอญ และแพร่หลายสู่ชาวเราในอุษาคเนย์ค่ะ

เอาหละค่ะ เกริ่นกันมาเกี่ยวกับขนมจีน มาพอสมควรแล้วเรามา มือซ้ายจับตะหลิว มือขวาจับกระทะ เปิดสูตรขนมจีน เข้าครัวกันเลยค่ะ


1. สูตรขนมจีนน้ำยา

ขนมจีนน้ำยา รสรินทร์

ขนมจีนน้ำยา เครื่องแกงเข้ม น้ำยาข้น

ขนมจีนน้ำยา รสรินทร์ เครื่องแกงเข้ม น้ำยาข้น ไม่มีงานเทศกาลงานบุญใดไม่มีขนมจีนน้ำยา สูตรนี้เป็นสูตรมาตรฐาน แต่ก็แฝงไปด้วยความเข้มข้นของเครื่องแกง และน้ำยา กินคู่กับผักแนมหอมๆ กระหล่ำปลี ใบแมงลัก ผักกาดดอง สดชื่นมากจานเดียวไม่เคยพอเลยค่ะ


สูตรเครื่องแกงขนมจีนน้ำยา
พริกแห้งเม็ดใหญ่ 100 กรัม
หอมแดง 100 กรัม
กระเทียม 100 กรัม
ข่าสับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
กระชาย 500 กรัม
ตะไคร้ 100 กรัม
สูตรขนมจีนน้ำยา
เนื้อปลาช่อน 1500 กรัม
น้ำต้มปลา 7 ถ้วย
มะพร้าวขูด 1000 กรัม
ปลาอินทรีย์เค็มปิ้ง 0.5 ถ้วย
ขนมจีน 3 กิโลกรัม
ลูกชิ้นปลา 1000 กรัม
พริกจินดาแดง (ตามชอบลอยหน้าน้ำยา)



ผักเคียงขนมจีนน้ำยา
  1. ถั่วงอกเด็ดหาง
  2. ผักกาดดองลวก
  3. มะระซอยลวก
  4. กะหล่ำปลีหั่นฝอย
  5. ใบแมงลัก
วิธีทำขนมจีนน้ำยา รสรินทร์
  1. โขลกเครื่องแกงทั้งหมดให้ละเอียกพริกไม่แล่นใบ
  2. ต้มปลาให้สุก แกะเอาแต่เนื้อแล้วโขลกให้ละเอียดรวมกับเครื่องแกงขนมจีนน้ำยา
  3. คั้นกะทิสด ใส่น้ำรวมได้ 8 ถ้วยและคั้นกรองเอาแต่น้ำ
  4. นำเครื่องแกงละลายลงในกะทิสด ใส่ปลาเค็ม น้ำปลา น้ำตาลปรุงรส ตั้งไฟให้เดือด
  5. ใส่ลูกชิ้น พริกจินดาแดงโรยกน้า ชิมรสและปรับรสให้อร่อย
  6. จัดเสิร์ฟคู่ ขนมจีน โดยตักราด แนมด้วยใบแมงลัก กะหล่ำปลีฝอย ถั่วงอก ผักกาดดอง หรือผักอื่นๆตามชอบ



2. สูตรขนมจีนน้ำเงี้ยว

ขนมจีนน้ำเงี้ยว รสรินทร์

ขนมจีนน้ำเงี้ยว รสรินทร์ สูตรนี้ลำขนาด

ขนมจีนน้ำเงี้ยว รสรินทร์ สูตรดัดแปลงมาจากตำรับอาหารวิทยาลัยในวัง เนื่องจากบางคนไม่ทานเนื้อจึงเปลี่ยนสูตรเป็นใช้เนื้อหมูทั้งหมด น้ำเงี้ยวสูตรนี้มีรสชาติเปรี้ยว เค็มกลมก่อมกำลังดี ขั้นตอนการทำก็ไม่ยุ่งยากนัก จะทำกินเองก็ง่ายทำขายก็รวย


สูตรเครื่องแกง
พริกแห้งบางช้างแกะเมล็ดแช่น้ำ 7 เม็ด
ข่าหั่นละเอียด 5 แว่น
ตะไคร้หั่นละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วเน่าย่างไฟ 1 ช้อนชา
รากผักชี 1 ช้อนชา
ขมิ้นสด 1 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงไทย 7 หัว
กระเทียมไทย 3 หัว
ปั่นหรือโขลก เครื่องแกงรวมกันให้ละเอียด



สูตรขนมจีนน้ำเงี้ยว
เนื้อหมูสับ 1000 กรัม
ซี่โครงหมู 500 กรัม
เลือดหมู 4 ก้อน
ดอกงิ้วแห้ง (แช่น้ำค้างคืน) 200 กรัม
มะเขีอเทศ(สีดา หรือ เชอร์รี่) 500 กรัม
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
เต้าเจี้ยวดำ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน 0.25 ถ้วย
กระเทียมเจียว 4 ช้อนโต๊ะ
เครื่องเคียงขนมจีนน้ำเงี้ยว
  1. เส้นขนมจีน
  2. ผักกาดดองลวก
  3. ถัวงอก
  4. มะนาวเสี้ยวเล็ก
  5. ผักชีและต้นหอมซอย
  6. พริกแห้งทอด (ตามชอบ)
วิธีทำขนมจีนน้ำเงี้ยว
  1. ตั้งหม้อใส่ดอกงิ้ว และเคี่ยวกระดูกหมูในน้ำให้พอเปื่อย ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงผัดเครื่องแกงให้หอม
  2. ใส่เนื้อหมู มะเขีอเทศ ผัดให้เข้าเนื้อจากนั้นนำกระดูกหมูลงใส่ผัดในเคื่องแกง ให้เข้ากันดี
  3. ใส่เครื่องแกงที่ผัดเข้ากันดีแล้วลงในหม้อน้ำซุป
  4. ใส่เลือดที่หั่นเต๋า ตั้งไฟอ่อนให้น้ำซุปเดือดและทุกอย่างสุกนุ่มดี
  5. ชิมและปรุงรสด้วยเกลือตามชอบ
  6. จัดจาน จับขนมจีนลงในชามราดน้ำเงี้ยวให้ทั่ง โรยด้วยเครื่องเคียง กระเทียมเจียว ต้นหอมผักชีซอย
  7. กินแนมกับ ผักกาดดองซอย ถั่วงอก ปรุงรสด้วยมะนาว และพริกทอด ตามชอบ



3. สูตรขนมจีนแกงเขียวหวานไก่

แกงเขียวหวาน รสรินทร์

แกงเขียวหวาน รสกลมกล่อม หอมอวลด้วยเครื่องแกงโขลกสด

ตำรับนี้เป็นตำรับที่เป็นสูตรทำกินกันในบ้านมานานตามตำรับโบราณ แกงเขียวหวานที่ดีจะต้องมีคุณลักษณะดังนี้

“แกงเขียวหวาน เป็นแกงที่ต้องมีรสกลมกล่อม ไม่เผ็ดปร่า หอมหวลจากเครื่องแกงทำสดใหม่ และหวานมันกลมกล่อมจากกะทิและน้ำตาลปึก เคี่ยวจนกะทิแตกมันลอยหน้าเล็กน้อย”



สูตรเครื่องแกงแกงเขียวหวาน
ลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
ยี่หร่า 1 ช้อนชา
ขมิ้นผง 0.5 ช้อนชา
พริกไทยขาวเม็ด 5 เม็ด
พริกขี้หนูสวนสีเขียว 30 เม็ด
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
รากผักชีซอย 1.5 ช้อนชา
กระเทียมสับ 4 กลีบ
หอมแดงซอย 2 หัว
กะปิ 1.5 ช้อนชา
วิธีทำเครื่องแกงเขียวหวาน
  1. คั่วลูกผักชี ยี่หร่า และพริกไทย ให้หอม ก่อนนำมาโขลกให้ละเอียด
  2. ห่อกะปิเคยดี ด้วยใบตอง ปิ้งจนหอมก่อนนำมาโขลกกับเครื่องแกง
  3. นำเครื่องแกงที่เตรียมไว้มาโขลกให้ละเอียดให้เครื่องแกงเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
เคล็ดลับรสรินทร์
  • ถ้าเครื่องแกงสีเขียวไม่พอสามารถใส่ใบพริกได้เล็กน้อยเพื่อเพิ่มสีแกงให้สวยงาม
  • บางตำราสามารถใส่ใบกะเพราลงไปโขลกเล็กน้อยได้เพื่อเพิ่มกลิ่นและสี ผิวมะกรูดต้องฝานไม่ให้มีเนื้อสีขาวติดเพราะจะทำให้แกงขม



ส่วนประกอบแกงเขียวหวาน
น้ำมันพืช 3 ช้อนชา
เครื่องแกงเขียวหวาน 4 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 3 ถ้วย
เนื้อไก่สับ 500 กรัม
น้ำปลาดี 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
มะเขือเปาะ 10 ลูก
มะเขือพวง ตามชอบ
พริกชี้ฟ้าแดงซอย 5 เม็ด
ใบโหระพา 2 หยิบมือ
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
วิธีทำแกงเขียวหวาน
  1. เคี่ยวหางกะทิกับเนื้อสัตว์ให้เปื่อย (ถ้าเนื้อสัตว์ประเภทหมู หรือ เนื้อ ยกเว้นไก่ ไม่ต้องเคี่ยวในหางกะทิ)
  2. นำเครื่องแกงมาผัดกับน้ำมันให้หอมเข้ากันค่อยๆ หยอดหัวกระทิจนแตกมันลอยหน้าเล็กน้อย
  3. ผัดจนเครื่องแกงหอมและสุกจะไม่ทำให้แกงมีรสปร่า (ถ้าทำแกงเขียวหวานไก่ให้ใส่ไก่ลงไปรวนกับเครื่องแกงในขั้นตอนนี้)
  4. นำเครื่องแกงผัดที่ได้ที่แล้วลงในหม้อหางกะทิและเนื้อสัตว์
  5. เมื่อทุกอย่างเข้ากันดีแล้วใส่ผักและมะเขือเปราะและมะเขือพวง
  6. ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี และน้ำตาลปีบเล็กน้อยให้มีรสหวาน มันหอมกลมกล่อม ไม่ควรมีรสใดรสหนึ่งแหลมออกมา
  7. ใส่พริกชี้ฟ้าที่หั่นแฉลบ และใบโหระพา และใบมะกรูดปิดไฟทันที
  8. จัดเสริฟลงชาม สามารถทานได้กับขนมจีน, ข้าวสวยร้อนๆ หรือแป้งโรตีก็เข้ากัน
เคล็ดลับรสรินทร์
  • เพื่อป้องกันแกงเขียวหวานมีสีดำลงเมื่อทิ้งไว้ให้ใส่ผงขมิ้นลงไปเวลาผัดเครื่องแกงเล็กน้อยเพื่อดึงสีให้เขียวเหลืองดูน่ารับประทาน
  • มะเขือเปาะและมะเขือพวงเมื่อหั่นและโดนอากาศจะมีสีดำทำให้แกงมีสีคล้ำไม่สวย
  • เมื่อหั่นเสร็จควรแช่ด้วยน้ำผสมน้ำเกลือเพื่อป้องกันมะเขือดำ และทำให้แกงไม่เปลี่ยนสี



4. สูตรขนมจีนน้ำพริก

ขนมจีนน้ำพริก รสรินทร์

ขนมจีนน้ำพริก ตำรับชาววังโบราณ

ขนมจีนน้ำพริก รสรินทร์ ตำรับชาววังโบราณ สูตรนี้รสชาติกลมกล่อม หอมหวานมันกำลังดี สมัยนี้จะหาขนมจีนน้ำพริกที่อร่อยวัตถุดิบถึงเครื่องนั้นยากเต็มที ส่วนใหญ่จะหวานแหลมไม่กลมกล่อม และไม่มีส่วนผสมของกุ้ง ทำเองนี่แหละถึงเครื่องและสะอาดปลอดภัย เป็นขนมจีนน้ำพริกสูตรโบราณที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพแน่นอนค่ะ


สูตรขนมจีนน้ำพริก รสรินทร์ (สำหรับ 10 คน)
กุ้งนาง (เอาเฉพาะเนื้อ) 500 กรัม
ถั่วเขียวคั่ว 400 กรัม
ถั่วลิสง 150 กรัม
น้ำสะอาด 500 กรัม
กะทิ 1000 กรัม
ขนมจีน 20 จับ
สูตรน้ำพริกขนมจีนน้ำพริก
กระเทียม 200 กรัม
หอมแดง 100 กรัม
รากผักชี 6 ราก
ผักชีไทย 100 กรัม
พริกแห้งบางช้าง 15 เม็ด
มะขามเปียก 1 ปั้น
น้ำมะนาว 4 ช้อนชา
น้ำมะกรูด 2 ช้อนชา
น้ำปลาดี 2 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ 800 กรัม
เกลือ 1 ช้อนชา

เผากระเทียม หอมแดงให้หอม จัดกำรโขลกน้ำพริกดังกล่าวข้างต้นให้ละเอียดก่อนแล้วเตรียมปรุงผสมต่อไป



ผักแนมขนมจีนน้ำพริก
  1. หัวปลีหั่นบางๆ (หั่นแล้วรีบนำไปแช่น้ำที่บีบมะนาว)
  2. ผักบุ้งลวก
  3. ผักกระเฉดตัดเป็นท่อน
  4. พริกทอด
  5. มะกรูดลอยหน้า
  6. น้ำมันพริกเผา

ตั้งน้ำเดือดใส่เกลือ มะนาว และน้ำมันใส่เพื่อให้ผักลวกขึ้นเงาและไม่ดำ

วิธีทำขนมจีนน้ำพริก รสรินทร์
  1. ใส่หัวกะทิลงไปในหม้อต้มไฟกลาง เคี่ยวจนกะทิแตกมันเล็กน้อย ผัดกับน้ำพริกค่อยๆหยอดทีละทัพพี จนแตกมันตามต้องการ
  2. เอากุ้งสับลงไปต้มด้วยจากนั้นใส่กะทิที่เหลือลงไป
  3. ใส่ถั่วเขียว ถั่วลิสงบดลงไปคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน หากน้อยเติมน้ำสะอาดได้นิดหน่อย
  4. ปรุงรสเค็ม หวำนให้พอดี
  5. เจียวกระเทียมกับน้ำมันพืชให้เหลืองหอม ใส่ลงไปในหม้อแกง  เดือดและเข้ากันดีปิดไฟยกลง
  6. ลอยหน้าด้วยลูกมะกรูด และแต่งด้วยน้ำมันพริกเผา ตักเสริฟ
  7. เวลารับประทำนเอามาราดบนเส้นขนมจีน รับประทานเคียงกับผัก ผักบุ้งลวกหั่นเล็กๆ หัวปลีซอยบาง ผักกระเฉด และ พริกแห้ง



5. สูตรขนมจีนซาวน้ำ

ขนมจีนซาวน้ำ รสรินทร์

ขนมจีนซาวน้ำ รสรินทร์ ขนมจีนโบราณหาทานยาก

ขนมจีนซาวน้ำ รสรินทร์ สูตรนี้เป็นสูตรโบราณ เครื่องเคราจะครบครัน รับประทารร่วมกับแจงลอนเนื้อเหนียว รากน้ำกะทิหอมสดชื่น เปรี้ยวเค็มหวานกลมกล่อม ขนมจีนซาวน้ำนี้สมัยก่อนนิยมรับประทานในวังในฤดูร้อนกันนะคะ ลองทำกันดูค่ะอร่อยแน่นอน


สูตรขนมจีนซาวน้ำ รสรินทร์
เส้นขนมจีน 1000 กรัม
กุ้งแห้งป่น 1 ถ้วย
กะทิสด 5 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
เนื้อปลากราย 500 กรัม
ไข่เป็ดต้ม 5 ฟอง
สัปปะรด 5 ถ้วย
ขิงซอย 1 ถ้วย
กระเทียมดองซอย 1 ถ้วย
มะนาวฝาน(สำหรับบีบปรุงรส)
พริกน้ำปลา (แนมคู่ขนมจีนซาวน้ำ)
วิธีทำขนมจีนซาวน้ำ
  1. นำกะทิมาตั้งไฟอ่อน พอเริ่มร้อนปั้นเนื้อปลากรายลงไปเป็นแจงลอน
  2. เติมเกลือ น้ำตาลปี๊บเพื่อปรุงรส พอแจงลอนสุก ลอยถือเป็นอันใช้ได้
  3. จัดจานเสิร์ฟด้วยการวางเส้นขนมจีน จากนั้นวางสัปปะรด ไข่ต้ม ขิงซอย กระเทียมดองซอยลงไป
  4. ราดน้ำกะทิแจงลอยลงไป ตามก้วยกุ้งแห้งป่น วางมะนาวฝาน ทานคู่พริกน้ำปลา



6. สูตรขนมจีนแกงไตปลา

แกงไตปลา รสรินทร์

แกงไตปลา รสรินทร์ เข้มข้นรสจัดหรอยหนัด

แกงไตปลา รสรินทร์ เข้มข้นรสจัดหรอยหนัด ขึ้นชื่อว่าแกงใต้ความเผ็ดร้อนแรง รสจัดถือว่าเป็นซิกเนเจอร์อาหารภาคนี้ และเมนูยอดฮิตติดลมบนตามร้านข้าวแกงคือ แกงไตปลานี่แหละค่า วันนี้รสรินทร์จะเปิดสูตรแกงไตปลาที่ หรอยแรงราดบนขนมจีน แกล้มผักกับไข่ต้ม เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมหรอกค่ะ


สูตรแกงไตปลา
ปลาสำลีหรือปลาช่อนย่างแกะเนื้อ 1000 กรัม
ไตปลาดองเค็ม 3/4 ถ้วย
น้ำสำหรับต้มไตปลา 1 ถ้วย
น้ำสะอาด 7 ถ้วย
ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
พริกขี้หนูแดงสด 100 กรัม
ตะไคร้ซอย 50 กรัม
ขมิ้นสดโขลก 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย 2 ช้อนโต๊ะ
ข่าซอย 2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดง 50 กรัม
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่เป็ดต้ม 5 ฟอง
ผักสำหรับแกงไตปลา 
หน่อไม้ไผ่ตงหั่นเป็นท่อนๆ 500 กรัม
มะเขือพวง 200 กรัม
ถั่วฝักยาว 300 กรัม
ฟักทอง 300 กรัม
มะเขือเปาะ 300 กรัม
วิธีทำแกงไตปลา
  1. โขลกเครื่องแกงทั้งหมดให้ละเอียด โขลกเข้ากับเนื้อปลาย่างแกะจนเนื้อเนียน แล้วละลายน้ำพักทิ้งไว้
  2. ตั้งน้ำสำหรับต้มไตปลา 1 ถ้วยใส่ไตปลาลงไป ห้ามคนปล่อยให้ไตปลาเดือดเองซักพัก ยงลงกรองเอาแต่น้ำไตปลา
  3. ตั้งไฟใส่หม้อน้ำละลายเครื่องแกงและน้ำไตปลา เมื่อเดือดใส่ผักลงไปไล่จากสุกยากไปสุกง่าย
  4. ตักเสิร์ฟ กับขนมจีน ไข่เป็ดต้ม และผักเคียงตามชอบ



7. สูตรขนมจีนแกงปูใบชะพลู

ขนมจีน แกงปูใบชะพลู

ขนมจีนแกงปูใบชะพลู รสรินทร์ เครื่องแกงหอมเนื้อปูแน่น

ขนมจีนแกงปูใบชะพลู รสรินทร์ สูตรนี้เป็นเครื่องแกงปูสไตล์ปักษ์ใต้แท้ๆ อร่อยเน้นๆด้วยเครื่องแกงรสจัดจ้านที่โขลกสดๆ ทานกับเนื้อปูแน่นๆหวานๆ ราดบนเส้นขนมจีนสด แนมผักสด ไข่เป็ดต้ม ฟินสุดๆไปเลยล่ะค่ะ


สูตรขนมจีนแกงปูใบชะพลู รสรินทร์
เส้นขนมจีน 1000 กรัม
กะทิ 5 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนชา
น้ำปลา 3 ช้อนชา
ใบมะกรูด 4 ใบ
ใบชะพลูซอย 400 กรัม
เนื้อปู (กรรเชียงแกะ) 600 กรัม
ไข่เป็ดต้มตานี 4 ฟอง
ผักชีเด็ดใบ(สำหรับตกแต่ง)
พริกชี้ฟ้าซอยยาว(สำหรับตกแต่ง)



สูตรเครื่องแกงปูใบชะพลู
พริกแห้งบางช้าง 14 เม็ด
พริกแห้ง 20 เม็ด
รากผักชี 2 ราก
ตะไตร้ซอยบาง 3 ต้น
ข่าซอยบาง 3 ช้อนชา
หอมแดงซอย 8 หัว
กระเทียม 2 หัว
ผิวมะกรูดซอย 3 ช้อนชา
เกลือ 1 ช้อนชา
พริกไทยขาว 1 ช้อนชา
พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
ลูกผักชี 2 ช้อนชา
ขมิ้นสด 2 ช้อนโต๊ะ
กะปิดี 1 ช้อนโต๊ะ



วิธีทำเครื่องแกงปูใบชะพลู
  1. นำกะปิห่อใบตองเผาให้หอม
  2. ตักพริกเป็นท่อนๆ แช่น้ำให้นิ่ม กรองเอาเมล็ดออก
  3. คั่วเครื่องเทศแห้งให้มีกลิ่นหอมด้วยไฟอ่อน
  4. โขลกเครื่องแกงทั้งหมดที่เตรียมไว้ให้เนื้อเนียนละเอียด ไม่มีพริกแล่นใบ
วิธีทำขนมจีนแกงปูใบชะพลู
  1. แกะเส้นหมีออกจากถุงแช่น้ำให้นิ่มประมาณ 5 นาทีนำไปลวกแล้วพักไว้
  2. ตั้งกระทะลงไฟกลางนำเครื่องแกงลงไปผัดกับกะทิ ค่อยๆหยอดทีละทัพพีจนแตกมันเงาสวย
  3. ใส่กะทิทั้งหมดลงไปละลายเครื่องแกง ใส่เครื่องปรุงน้ำตาลปี๊บ น้ำปลาชิมรสตามชอบ
  4. ใส่ใบชะพลูลงไป เคี่ยวเล็กน้อยให้พอสุก
  5. ปิดไฟใส่เนื้อปูลงไปครึ่งหนึ่ง คนเบาๆระวังอย่าให้เนื้อปูแตกแค่ให้น้ำแกงเคลือบเนื้อปูให้หมด
  6. ตักใส่จานเตรียมจัดเสิร์ฟ ตกแต่งด้วยเนื้อปูเพิ่มเติม โรยด้วยใบมะกรูดและพริกฝอย ทานคู่กับขนมจีน และไข่ต้มเยิ้มๆ และผักสด



8. สูตรขนมจีนแกงเผ็ดหน่อไม้ไก่

แกงเผ็ดหน่อไม้ไก่ รสรินทร์

ขนมจีนแกงเผ็ดหน่อไม้ไก่ รสรินทร์ แกงพื้นบ้านอร่อยไม่ธรรมดา

แกงเผ็ดหน่อไม้ไก่ รสรินทร์ แกงพื้นบ้านที่หารับประทานได้ตามร้านข้าวแกงได้ทั่วไปนะคะ แต่อร่อยไม่ธรรมดาเลยค่ะ ด้วยเครื่องแกงที่โขลกกันสดๆ กะทิหอมมัน ไก่เนื้อนุ่มกับหน่อไม้กรุบกรอบ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือขนมจีน แค่คิดก็น้ำลายหกแล้วล่ะค่ะ


สูตรแกงเผ็ดหน่อไม้ไก่ รสรินทร์
ไก่สับเป็นชิ้นพอดีคำ 400 กรัม
กะทิ 4 ถ้วย
หน่อไม้หั่นแท่ง 2 ถ้วย
ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ
พริกแกงแดง 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับผัดพริกแกง 2 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าซอย (สำหรับตกแต่ง)
ใบโหระพา (สำหรับตกแต่ง)
สูตรน้ำพริกแกงเผ็ดหน่อไม้ไก่
พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
พริกบางช้างแห้ง 4 เม็ด
รากผักชีสับ 1 ช้อนชา
ขมิ้นสดสับละเอียด 0.5 ช้อนชา
พริกไทยขาว 1 ช้อนชา
เกลือ 1 ช้อนชา
ข่าสับละเอียด 1 ช้อนชา
ผิวมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย 0.25 ถ้วย
หอมแดง 0.5 ถ้วย
กระเทียม 4 กลีบ
กะปิดี 2 ช้อนชา



วิธีทำเครื่องแกงเผ็ดหน่อไม้ไก่
  1. นำกะปิห่อใบตองเผาให้หอม
  2. ตักพริกเป็นท่อนๆ แช่น้ำให้นิ่ม กรองเอาเมล็ดออก
  3. คั่วเครื่องเทศแห้งให้มีกลิ่นหอมด้วยไฟอ่อน
  4. โขลกเครื่องแกงทั้งหมดที่เตรียมไว้ให้เนื้อเนียนละเอียด ไม่มีพริกแล่นใบ
วิธีทำแกงเผ็ดหน่อไม้ไก่
  1. โขลกรากผักชี กระเทียม ลูกผักชีให้ละเอียด พักไว้
  2. ตั้งน้ำมันไฟกลางใส่เครื่องที่โขลกไว้ รวมทั้งเครื่องแกงให้หอมและเครื่องแกงสุก
  3. เทกะทิลงไปในกระทะลดไฟเล็กน้อย (ไม่ต้องให้กะทิแตกมันเพิ่มแล้ว) เคี่ยวให้เข้าเครื่องแกง
  4. ใส่ไก่ และหน่อไม้ลงไป เคี่ยวให้สุกนุ่มดี
  5. ใส่เครื่องปรุงรส น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ชิมรสให้กลมกล่อม
  6. ปิดไฟ ใส่ใบมะกรูด จัดลงจานเตรียมเสิร์ฟ
  7. ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าซอย ใบโหระพา ทานคู่กับข้าวหอมมะลิ หรือขนมจีน



9. สูตรขนมจีนแกงป่าปลา

แกงป่าปลา รสรินทร์

แกงป่าปลา รสรินทร์ เผ็ดร้อนถึงเครื่องถึงรสแกงป่า

แกงป่าปลา รสรินทร์ สูตรเด็ดเผ็ดร้อนถึงเครื่องถึงรสแกงป่า อร่อยไร้กะทิใครควบคุมน้ำหนักอยู่นะคะอย่าได้พลาดเลยค่ะ มีทั้งผักพื้นบ้านที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยกากใย ปลาน้ำจืด น้ำเค็มตามชอบนะคะ กับเครื่องแกงป่าร้อนๆ ซดทีแซ่บเผ็ดร้อนหัวโล่งกันเลยทีเดียวค่ะ อย่าพลาดอร่อยมาก


สูตรแกงป่าปลา รสรินทร์ 

 

น้ำซุป/น้ำสะอาด 2 ถ้วย
มะเขือเปาะหั่น 1.5 ถ้วย
มะเขือพวง 0.5 ถ้วย
มะเขือยาวหั่นท่อน 0.5 ถ้วย
ข้าวโพดอ่อน 8 อัน
น้ำปลาดี 1.5 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
กระชายหั่นเส้น 8 ต้น
ปลาหั่นชิ้น 500 กรัม
พริกไทยอ่อน 2 ช่อ
ใบกระเพรา (ตามชอบใส่มากแซ่บมาก)
ส่วนผสมน้ำพริกแกงป่า
พริกแดงแห้ง 6 เม็ด
พริกแห้งบางช้าง 3 เม็ด
เกลือ 0.5 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
ข่าซอย 1 ช้อนชา
ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
พริกไทยขาว 0.5 ช้อนชา
กระเทียม 4 กลีบ
หอมแดง 2 หัว
รากผักชี 1 ราก
กะปิ 1.5 ช้อนชา



วิธีทำเครื่องแกงป่า
  1. นำส่วนผสมเครื่องแกงทุกอย่างมาปั่น หรือโขลกให้ละเอียดพริกไม่แล่นใบ
วิธีทำแกงป่าปลาดุก
  1. นำปลามาล้าง ถูเกลือให้สะอาด ถ้าเป็นปลาน้ำจืดขูดเมือกออกให้หมดจะไม่เหม็นคาวหั่นเป็นชิ้น
  2. ตั้งกระทะนำพริกแกงมาผัดกับน้ำมันเล็กน้อย ผัดจนสุกพริกแกงจะไม่เหม็นเขียวและปร่า
  3. ใส่น้ำสะอาดลงในเครื่องแกงรอเดือด ใส่ปลาลงไป ห้ามคนเด็ดขาดรอจรปลาสุก
  4. ใส่ผักต่างๆลงไปเรียกจากสุกยากไปสุกง่าย ข้าวโพดอ่อน มะเขือยาว มะเขือเปาะ มะเขือพวง
  5. พอผักเริ่มสุกใส่เครื่องปรุงลงไป น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ใบมะกรูด ชิมรสจนพอใจ
  6. ปิดไฟใส่ใบกระเพราะลงไป ตักใส่ชาม เสิร์ฟพร้อม ขนมจีน



10.สูตรแกงเขียวหวานเนื้อ

แกงเขียวหวานหมู รสรินทร์

แกงเขียวหวานเนื้อ รสรินทร์ เนื้อนุมชุ่มเครื่องแกงเขียวหวาน

แกงเขียวหวานเนื้อ รสรินทร์ สูตรนี้มากับเนื้อน่องลายนุ่มๆ ในน้ำแกงเขียวหวานกะทิ และเครื่องแกงตำสดๆ จะเคียงด้วยขนมจีน หรือข้าวสวยร้อนๆ งานไหนก็งานนั้นสู้ไม่มีถอยหรอกค่ะ


สูตรแกงเขียวหวานเนื้อ รสรินทร์
เนื้อวัวส่วนน่องลาย 1000 กรัม
มะพร้าวกะทิ 1000 กรัม
มะเขือพวง 0.25 ถ้วย
มะเขือเปาะ 0.5 ถ้วย
ใบมะกรูด 8 ใบ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา
พริกขี้หนูสวน (สำหรับแต่งตามชอบ)
ใบโหระพา (สำหรับแต่งตามชอบ)
สูตรเครื่องแกงแกงเขียวหวานเนื้อ
ลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
ยี่หร่า 1 ช้อนชา
ขมิ้นผง 0.5 ช้อนชา
พริกไทยขาวเม็ด 5 เม็ด
พริกขี้หนูสวนสีเขียว 30-50 เม็ด
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
รากผักชีหั่น 1.5 ช้อนชา
กระเทียมสับ 4 กลีบ
หอมแดงซอย 2 หัว
กะปิ 1.5 ช้อนชา



วิธีทำเครื่องแกงเขียวหวานเนื้อ
  1. คั่วลูกผักชี ยี่หร่า และพริกไทย ให้หอม ก่อนนำมาโขลกให้ละเอียด
  2. ห่อกะปิเคยดี ด้วยใบตอง ปิ้งจนหอมก่อนนำมาโขลกกับเครื่องแกง
  3. นำเครื่องแกงที่เตรียมไว้มาโขลกให้ละเอียดให้เครื่องแกงเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
เคล็ดลับรสรินทร์
  • ถ้าเครื่องแกงสีเขียวไม่พอสามารถใส่ใบพริกได้เล็กน้อยเพื่อเพิ่มสีแกงให้สวยงาม
  • บางตำราสามารถใส่ใบกะเพราลงไปโขลกเล็กน้อยได้เพื่อเพิ่มกลิ่นและสี ผิวมะกรูดต้องฝานไม่ให้มีเนื้อสีขาวติดเพราะจะทำให้แกงขม
วิธีทำแกงเขียวหวานเนื้อ
  1. คั้นกะทิ 1 กิโลกรัมให้ได้หัวกะทิ 3 ถ้วยหางกะทิ 7 ถ้วย
  2. ต้มเนื้อวัวในหางกะทิจนสุก พักไว้ให้เย็น หั่นเป็นชิ้นขนาดตามชอบ พักไว้
  3. นำเครื่องแกงมาผัดกับหัวกะทิ ค่อยๆหยอดหัวกะทิลงไปทีละทัพพีผัดจนแตกมัน เงาสวยงาม
  4. ใส่ลงไปในหม้อต้มเนื้อ ใส่เครื่องปรุงน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ คนให้เข้ากัน
  5. เคี่ยวน้ำแกงจนเดือด ใส่ผัก มะเขือพวง และ มะเขือพวงเคี่ยวต่อให้สุก
  6. หรี่ไฟ ใส่เนื้อวัวที่หั่นเตรียมไว้ ใบมะกรูด และใบโหระพา คนให้ส่วนผสมสุกเข้ากันดี
  7. ชิมอีกครั้งและปรับรสชาติชามชอบ ตักใส่ชามตกแต่งด้วยโหระพา และพริก ทานกับข้าวสวย หรือเส้นขนมจีน

Rosalyn Banner


อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ
รับรองว่า คุณจะทำอาหารได้อร่อยจนคนทั้งบ้านชมไม่ขาดปากเลยค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ

Facebook: RosalynTH

ดูสูตรเด็ดอื่นๆ หน้าหลักรสรินทร์

[vc_row][vc_column][vc_single_image image=”1894″ img_size=”full” alignment=”center” onclick=”custom_link” link=”https://store.line.me/stickershop/product/5353487/en”][/vc_column][/vc_row]

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF