กาแฟคืออะไร ประวัติและต้นกำเนิดของกาแฟ
คุณรู้ไหมว่าเครื่องดื่มยามเช้าที่เพื่อนๆ จิบกันทุกวัน มีเรื่องราวน่าสนใจซ่อนอยู่
ถ้าพูดถึง “กาแฟ” หลายคนอาจนึกถึงรสชาติขมๆ หอมกรุ่นที่ช่วยให้ตื่นตัวในตอนเช้า หรือบางคนอาจนึกถึงบรรยากาศสบายๆ ในคาเฟ่โปรด แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าเบื้องหลังความอร่อยนี้ มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับร้อยปี ที่เต็มไปด้วยเรื่องน่าทึ่งตั้งแต่ตำนานการค้นพบจนกลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมไปทั่วโลก ถ้าอยากรู้ว่ากาแฟเกิดจากอะไร และทำไมถึงฮิตขนาดนี้ ตามมาเลย เราจะพาเพื่อนๆ ย้อนเวลาไปด้วยกัน
มาทำความรู้จัก “กาแฟ” แบบเจาะลึก ตั้งแต่ต้นกำเนิดจนถึงทุกวันนี้
กาแฟคืออะไรกันแน่
กาแฟคือเครื่องดื่มที่ทำจากเมล็ดของต้น “กาแฟ” (Coffee) ซึ่งผ่านกระบวนการคั่ว บด และชงด้วยน้ำร้อน โดยสารสำคัญที่ทำให้เราตื่นตัวคือ คาเฟอีน แต่ไม่ใช่แค่เรื่องพลังงานเท่านั้น กาแฟยังมีรสชาติและกลิ่นที่หลากหลายขึ้นอยู่กับพันธุ์เมล็ด พื้นที่ปลูก และวิธีชง บางแก้วอาจมีรสผลไม้ๆ บางแก้วอาจมีรสช็อกโกแลตหรือถั่ว แค่คิดก็น้ำลายสอแล้วใช่ไหมล่ะ
ตำนานการค้นพบกาแฟ ที่เพื่อนๆ อาจไม่เคยรู้
เรื่องเล่าที่โด่งดังที่สุดคือเรื่องของ คาลดี เด็กเลี้ยงแพะชาวเอธิโอเปีย (ประมาณศตวรรษที่ 9) ที่สังเกตว่าแพะของเขาตื่นตัวผิดปกติหลังจากกินผลไม้สีแดงจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง เมื่อลองนำไปต้มน้ำดื่มก็พบว่ามันทำให้กระปรี้กระเปร่า จากนั้นเมล็ดกาแฟก็ถูกนำไปเผยแพร่ในหมู่ผู้บำเพ็ญสมาธิเพื่อช่วยให้ตื่นตัวระหว่างนั่งภาวนา
แต่บางตำนานก็บอกว่า ชาวโรมันหรืออาหรับรู้จักกาแฟมาก่อนหน้านั้น แต่ไม่ว่าจะไหน กาแฟก็เริ่มเดินทางจากแอฟริกาไปยังทั่วโลกนับตั้งแต่นั้น
กาแฟแพร่กระจายไปทั่วโลกได้ยังไง
- ยุคแรกเริ่ม (แอฟริกา-ตะวันออกกลาง)
- เริ่มปลูกในเยเมนช่วงศตวรรษที่ 15
- ชาวอาหรับเรียกกาแฟว่า “ควาห์วา” (แปลว่า “สิ่งที่น่าตื่นเต้น”)
-
คาเฟ่แห่งแรกเปิดที่เมกกะ เรียกว่า “โรงเรียนนักปราชญ์” เพราะคนมานั่งคุยกันยาวๆ
-
ยุโรปติดกาแฟหนัก
- ศตวรรษที่ 17 กาแฟเข้าสู่อิตาลีผ่านการค้า
- ชาวอังกฤษเรียกกาแฟว่า “ไวน์แห่งอาหรับ”
-
คาเฟ่กลายเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนแนวคิด จนบางคนกลัวว่ามันจะทำให้คนคิดมากจนปฏิวัติ
-
ยุคโคลัมเบียน เอ็กซ์เชนจ์
- ชาวยุโรปนำกาแฟไปปลูกในอาณานิคม เช่น บราซิล, อินโดนีเซีย
- บราซิลกลายเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 ของโลกจนถึงทุกวันนี้
ทำไมกาแฟถึงมีหลากหลายสายพันธุ์
เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่าทำไมกาแฟบางแก้วขมจัด บางแก้วหวานนุ่ม นั่นเพราะกาแฟมี 2 สายพันธุ์หลักๆ คือ
- อาราบิกา (Arabica) (70% ของการบริโภคทั่วโลก)
- รสชาตินุ่มละมุน มีความเป็นกรดและกลิ่นหอมผลไม้
-
ปลูกบนที่สูง อากาศเย็น เช่น โคลัมเบีย, เอธิโอเปีย
-
โรบัสตา (Robusta)
- คาเฟอีนสูง รสขมเข้ม
- ทนโรคได้ดี ปลูกในที่ต่ำ เช่น เวียดนาม
แต่เดี๋ยวนี้ยังมี พันธุ์ผสมและพันธุ์หายาก เช่น ไกเซีย (Geisha) ที่ราคาแพงมาก เพราะมีกลิ่นดอกไม้และรสชาติซับซ้อน
ทำไมเพื่อนๆ ควรรู้เรื่องกาแฟ เพราะมันมากกว่าแค่เครื่องดื่ม
- รู้รสนิยมตัวเองมากขึ้น – ถ้ารู้ว่าชอบพันธุ์ไหน จะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูก
- เลือกดื่มแบบมีสไตล์ – จากเดิมที่อาจดื่มแค่สะดวก ก็อาจหาคาเฟ่ดีๆ หรือลองชงเอง
- เป็นคุยกับเพื่อน – เวลาไปคาเฟ่จะได้เมาท์กับบาริสตาเป็นเรื่องเป็นราว
- สุขภาพดีขึ้น – ถ้ารู้ปริมาณที่เหมาะสม กาแฟช่วยลดความเสี่ยงหลายโรค เช่น เบาหวาน типа 2
อยากเป็นนักดื่มกาแฟมือโปรไหม เริ่มง่ายๆ แค่ทำตามนี้
- ลองสังเกตรสชาติ – คราวหน้าดื่มกาแฟ ลองจิบช้าๆ แล้วถามตัวเองว่าได้กลิ่นอะไรบ้าง
- ถามบาริสตา – ถ้าไปคาเฟ่ ลองถามว่า “กาแฟวันนี้เป็นพันธุ์อะไรครับ/คะ”
- ชงเองสักแก้ว – ซื้อกาแฟบดสดๆ มาลองใช้ French Press หรือ V60 ดู
- แชร์ประสบการณ์ – ถ้าเพื่อนๆ พบทริคเด็ดๆ อย่าลืมมาคอมเมนต์บอกกันนะ
อย่ากลัวที่จะลอง เพราะกาแฟแต่ละแก้วคือประสบการณ์ใหม่ที่รอให้เพื่อนๆ ค้นหาเลยล่ะ ☕
อยากรู้สูตรเด็ดเคล็ดลับรสรินทร์ ตอนใหม่ๆ อย่าลืมกดไลค์ แฟนเพจรสรินทร์ นะคะ ขอบคุณที่ติดตามเพจ รสรินทร์ Rosalyn นะคะ
⚠️
Disclaimer
ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเพื่อประกอบการตัดสินใจ ทางเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจตามข้อมูลที่ได้รับ
ArticleID: 959